Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

โปรแกรม Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับปรุงคุณภาพผิวให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก

แน่นอนว่าเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปและสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ๆ ก็คงจะเป็นใบหน้าของเราที่เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวมีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับเต่งตึงเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่มีอายุมากขึ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของเราก็จะเริ่มลดลง โดยปกติร่างกายจะเริ่มสร้างคอลลาเจนลดลงตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อมีอายุประมาณ 45 ปี การสร้างคอลลาเจนในผิวก็จะเริ่มลดน้อยลงมากขึ้น จึงทำให้สังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าผิวมีความหย่อนคล้อยไม่กระชับเต่งตึงเหมือนเดิม เนื่องจากคอลลาเจนนั้นจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยพยุงโครงสร้างของผิว เมื่อคอลลาเจนลดลงก็จะทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเสียรูปทรงได้
 
ปัจจุบันวงการแพทย์ด้านความงามจึงได้มีการพัฒนานวัตกรรมการฟื้นฟูผิวแบบใหม่ด้วยโปรแกรม Sculptra ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ฟื้นฟูผิวตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ส่งผลทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน กระชับเต่งตึง ผิวแข็งแรง แลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
 
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 

ทำความรู้จัก Collagen (คอลลาเจน) คืออะไร? มีความสำคัญต่อผิวอย่างไรบ้าง ?

ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกทำความรู้จักกับโปรแกรม Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ Collagen (คอลลาเจน) องค์ประกอบสำคัญของผิวก่อน ซึ่งคอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80% เป็นโครงสร้างสำคัญของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผิวหนัง ที่จะช่วยป้องกันรอยเหี่ยวย่น และผิวแก่ก่อนวัย


ความสำคัญของคอลลาเจนที่มีต่อผิวหนัง ได้แก่

Collagen (คอลลาเจน) มีกี่ชนิด แต่ละชนิดช่วยเรื่องอะไร?

ในร่างกายของคนเราจะมีคอลลาเจนด้วยกันหลากหลายชนิด ซึ่งชนิดที่สำคัญสามารถพบได้บ่อยและควรรู้จักมีด้วยกัน 5 ชนิด และแต่ละชนิดก็มีความแข็งและยืดหยุ่นได้ดีแตกต่างกันออกไป ดังนี้ 
 
  1. คอลลาเจน Type 1 (Collagen Type I) เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกาย ซึ่งจะพบมากในผิวหนัง ผนังหลอดเลือด และเส้นเอ็น มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ช่วยป้องกันไม่ให้เนื่อเยื่อฉีดขาด ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน ไม่หย่อนคล้อย
  2. คอลลาเจน Type 2 (Collagen Type II) เป็นคอลลาเจนที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า Type 1 ซึ่งจะพบมากในกระดูกและข้อต่อ ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน กระตุ้นการให้เกิดการสังเคราะห์เซลล์ใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งรองรับน้ำหนักและข้อต่อต่าง ๆ ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวสะดวก และลดการเสื่อมของกระดูกบริเวณข้อต่อ
  3. คอลลาเจน Type 3 (Collagen Type III) เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบมากอยู่ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด ซึ่งมักพบร่วมกับคอลลาเจน Type 1 แต่พบในอัตราส่วนที่น้อยกว่า และไม่แข็งแรงเท่ากับคอลลาเจน Type 1 ซึ่งจะช่วยในการสร้างมวลกล้ามเนื้อ
  4. คอลลาเจน Type 4 (Collagen Type IV) เป็นคอลลาเจนที่มีความเฉพาะตัว พบมากในบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด 
  5. คอลลาเจน Type 5 (Collagen Type V) เป็นคอลลาเจนที่พบในกระจกตา เส้นผม ผิวหนัง และในเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์และรก ซึ่งคอลลาเจนชนิดนี้จะช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นใยภายในชั้นผิว และช่วยจัดเรียงเซลล์ผิวให้เป็นระเบียบ
 
จะเห็นว่าคอลลาเจน Type 1 เป็นชนิดที่พบมากที่สุดในผิวหนัง และเป็นชนิดที่มีความสำคัญต่อผิวหนังที่ร่างกายของเราต้องการมากที่สุด ยิ่งเรามีอายุมากขึ้นร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง โดยเมื่อเข้าสู่ช่วยอายุ 20 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว 1-2 % ต่อปี และเมื่ออายุ 45 ปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนในผิวก็จะเริ่มลดน้อยลง ส่งผลให้ผิวเริ่มมีริ้วรอย ผิวไม่กระชับเหมือนเดิม ผิวแห้งกร้าน และมีร่องลึกมากขึ้น Sculptra จึงเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของคนเราตามธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น โดยตามผลการวิจัยจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจน Type 1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน หากเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถผลิตคอลลาเจน Type 1 ได้มากเทียบเท่ากับ Sculptra ได้ในขณะนี้นั่นเอง
 

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

นวัตกรรม Sculptra คืออะไร? 

Sculptra คือ อนุภาคของกรด Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งถือว่าเป็น The First & Original Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวโดดเด่นไม่เหมือนใคร และเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง โดย Sculptra ได้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งเป็นสารฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวตามกระบวนการธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าไปยังส่วนลึกของชั้นผิวหนังแท้อนุภาค PLLA จะกระจายไปทั่วผิว โดยอนุภาคขนาดเล็กของ PLLA จะทำหน้าที่เพิ่มปริมาณไฟโบรบลาสต์ ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของคอลลาเจนและช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวภายใน ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ทำให้ผิวแน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไม่มีผลหรืออาการข้างเคียงใดๆ ที่เป็นอันตราย

Sculptra มีกระบวนการทำงานอย่างไร?

สำหรับ PLLA ใน Sculptra จะมาในรูปแบบผง PLLA Powder โดยจะบรรจุอยู่ภายในขวด ซึ่งกระบวนการทำงานเริ่มตั้งแต่ก่อนฉีดเข้าสู่ผิวหนัง มีดังนี้
 
 
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 

คุณสมบัติของ Sculptra ช่วยอะไรบ้าง?

Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ล่าสุด ที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากผิวชั้นลึกให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ และแลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของการดูแลผิวด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
 
 
 
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 

นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน Sculptra เหมาะกับใครบ้าง?

Sculptra เป็นอนุภาคของกรด Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงช่วยฟื้นฟูโครงสร้างภายในชั้นลึกของผิวเพื่อทำให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งช่วยทำให้ผิวดูยกกระชับ ผิวดูแน่นอิ่มฟู และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว พร้อมช่วยปรับปรุงคุณภาพของผิวให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือว่า Sculptra ตอบโจทย์กับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ผิวมีริ้วรอย และต้องการจัดการกับปัญหาผิวให้กลับมาดูสุขภาพดีมากขึ้น โดยผู้ที่เหมาะสำหรับการฉีดด้วยนวัตกรรม Sculptra ได้แก่
 

Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน ฉีดตรงไหนได้บ้าง

สำหรับนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยย้อนวัยด้วยนวัตกรรม Sculptra ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งด้วยกัน โดยหลัก ๆ จะนิยมทำการฉีดบริเวณ ขมับ หน้าแก้ม (Midface) ใต้โหนกแก้มด้านข้าง กรอบหน้า ซึ่งจะทำการฉีดด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะที่ SparSha ซึ่งจะช่วยทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่ไม่แนะให้ฉีดเข้าไปตรง ๆ ในบางตำแหน่ง ได้แก่ บริเวณหน้าผาก, จมูก, ใต้ตา, ร่องแก้ม, ปาก, ร่องน้ำหมาก เป็นต้น
 
 
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หลังการฉีด Sculptra เห็นผลเมื่อไหร่ ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

ผลลัพธ์หลังการฉีดด้วย Sculptra จะยังไม่สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที โดยผลลัพธ์ของ Sculptra จะค่อย ๆ เห็นผลไปทีละนิด เนื่องจากตัวยาจะค่อย ๆ เข้าไปทำปฏิกิริยาในใต้ชั้นผิวลึกและเริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวของตัวเองให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ที่จะเริ่มเห็นผล และเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นในระยะเวลา 3 เดือน แล้วจะเห็นผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนานถึง 2 ปี หรือ 25 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล) โดยเป็นการคงอยู่ของคอลลาเจนที่สร้างขึ้นด้วยตนเองตามธรรมชาติ 
 

การฉีด Sculptra เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ต้องทำการรักษากี่ครั้ง

จำนวนการรักษาด้วย Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากปัญหาของสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จำนวนครั้งที่ต้องทำก็อาจจะไม่เท่ากัน ซึ่งโดยทั่วไปหากเป็นผู้ที่มีปัญหาผิวไม่มากนัก ควรฉีดประมาณ 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ หรือแนะนำให้ฉีดตามช่วงอายุ 10 ปี ต่อการฉีด Sculptra 1 ขวด เช่น ถ้ามีอายุ 30 ปี แนะนำให้ฉีด 3 ขวด โดยแบ่งฉีด 1 ขวดต่อ 1 ครั้ง หรือตามความเหมาะสมของแพทย์ผู้ประเมินและพิจารณา
 
   
 
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

ก่อนการเข้ารับการรักษาด้วยนวัตกรรม Sculptra ควรมีการเตียมตัวให้ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการฉีดมีประสิทธิภาพ และดูดีเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยแนวทางในการปฏิบัติตัวก่อนการฉีดมีดังนี้
 
  1. งดการฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการอื่น ๆ ประมาณ 2-4 สัปดาห์
  2. ควรงดการใช้ยาแก้ปวดในกลุ่มยาแอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ 
  3. งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการพกช้ำ
  4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนเข้ารับการรักษา
  5. หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีด
  6. ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร

ขั้นตอนการฉีด Sculptra มีวิธีการอย่างไรบ้าง

  1. เข้ารับการประเมินปัญหาและสภาพผิวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการฉีดจริง
  2. ก่อนทำการฉีด แพทย์จะแปะยาชาเป็นเวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อช่วยลดอาการแสบในขณะที่ฉีด
  3. ระหว่างรอยาชาแพทย์จะทำการเตรียม Sculptra ให้อยู่ในรูป Active form โดยการผสม Sculptra เข้ากับ Sterile water เพื่อพร้อมใช้งาน
  4. แพทย์จะทำการฉีด Sculptra ที่พร้อมใช้แล้วลงใต้ชั้นผิว 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G ซึ่งจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีที่สุด
  5. เมื่อฉีดเสร็จอาจมีรอยเข็ม และมีอาการบวมซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นแพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง และวิธีการนวดหน้าเพื่อให้ยากระจายตัวได้ดียิ่งขึ้น
  6. สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่ต้องพักฟื้น

ข้อปฎิบัติการดูแลตัวเองหลังทำ Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

ถึงแม้ว่าหลังจากการฉีด Sculptra มาแล้วจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้น แต่ก็ต้องดูแลตัวเอง และปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์สมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด ได้แก่
 
  1. สามารถประคบเจลเย็นบริเวณที่ทำการฉีดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมได้
  2. งดการแต่งหน้า 24 ชั่วโมง
  3. งดการอบซาวน่า การอบไอน้ำ หรือหลีกเลี่ยงการโดนความร้อน สัมผัสแสงแดดและแสงยูวี เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง 
  4. หลีกเลี่ยงการฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการอื่นๆ หลังจากฉีด Sculptra ประมาณ 2-4 สัปดาห์
  5. ควรงดการออกกำลังกายหักโหม ประมาณ 2-3 วัน
  6. ควรนวดหน้าตามหลัก Triple 5 เพื่อช่วยให้ตัวยากระจายตัวได้ทั่วใบหน้า
 
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

วิธีการนวดหลังฉีด Sculptra ด้วยเทคนิค Triple 5

หลังจากฉีด Sculptra ไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำ คือต้องคอยนวดโดยใช้หลักการแบบ Triple 5 เพื่อให้อนุภาคของสาร PLLA กระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้า และไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งการนวดตามหลัก Triple 5 จะเป็นการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน และเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน (5 ครั้ง 5 นาที 5 วัน) ซึ่งแนะนำให้นวดทันทีหลังฉีด โดยการนวดลงน้ำหนักมือเป็น Vector ตามแนวกล้ามเนื้อ และบริเวณที่ฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยขั้นตอนการนวดมีด้วยกัน 4 Step ดังนี้
  1. Step 1 ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดบริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง จากนั้นใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากบริเวณหน้าผากไปด้านข้างขมับ
  2. Step 2 ทำมือในลักษณะยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น แนบไปบริเวณหน้าแก้มทั้งสองข้าง แล้วค่อย ๆ เลื่อนจากหน้าแก้มออกไปข้าง ๆ แก้ม โดยที่ยังนวดอยู่ไม่หยุด
  3. Step 3 ใช้อุ้งมือกดบริเวณข้าง ๆ แก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากด้านล่างขึ้นบนไปจนถึงโหนกแก้ม ให้ทำซ้ำไปมาหลาย ๆ รอบ
  4. Step 4 ทำมือแบบ Step 2 โดยยกนิ้วโป้งขึ้น นวดเริ่มจากบริเวณคางไล่ไปเรื่อย ๆ ตามแนวกรามของกรอบหน้าด้านข้าง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด Sculptra และข้อควรระวังสำหรับการรักษาด้วยนวัตกรรม Sculptra

นวัตกรรม Sculptra เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่ามีความปลอดภัย แต่ก็อาจจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นเล็กน้อย โดยอาจจะมีอาการบวม แดง ช้ำ หรือมีอาการปวดเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ หายได้เองประมาณ 2-3 วัน จึงถือว่าเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ปกติ หรือในบางรายอาจคลำพบตุ่มนูนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังในช่วงแรก ๆ ซึ่งแนะนำให้ทำการนวดด้วยเทคนิค Triple 5 ตามที่แพทย์ได้แนะนำก็จะช่วยให้ตัวยาที่ฉีดเข้าไปไม่เกาะกลุ่มเป็นก้อนนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามหรือควรระวังที่ไม่เหมาะสำหรับฉีดให้กับบุคคลเหล่านี้ ได้แก่
 
 
 
 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line :  Line @sparsha

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

 

ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife