ลดน้ำหนักอย่างไร ให้ยังคงสุขภาพดีไม่มีอันตรายและ Yo-Yo Effect

ลดน้ำหนักอย่างไร ให้ยังคงสุขภาพดีไม่มีอันตรายและ Yo-Yo Effect

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ลดน้ำหนักอย่างไร ให้ยังคงสุขภาพดี ไม่มีอันตราย และ Yo-Yo Effect

การลดน้ำหนัก คือ เป้าหมายแรกของผู้ที่อยากมีหุ่นสวย สมส่วน รูปร่างเพรียว สัดส่วนโค้งเว้าชัดเจน หรือผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาภาวะอ้วน รูปร่างท้วม มีไขมันสะสมอยู่มากและเห็นผิวหย่อนคล้อย ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาให้เห็น หลายๆคนต่างก็เริ่มหันมาลดน้ำหนักกันอย่างจริงจังขึ้น แต่การที่คุณจะลดน้ำหนักลงได้นั้นต้องอาศัยระยะเวลาค่อนข้างนานพอสมควร รวมทั้งความอดทนในการลดน้ำหนักกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นที่น่าพอใจ บางคนรอที่จะเห็นผลลัพธ์การลดน้ำหนักไม่ไหว จึงใช้ทางเลือกทางลัดสำหรับการลดน้ำหนัก อย่างเช่น การรับประทานยาลดน้ำหนัก การรับประทานอาหารเสริมเพื่อลดน้ำหนัก อดอาหาร หรืออาจมีการล้วงคอเพื่อให้อาหารที่ทานเข้าไปนั้นออกมา เรียกง่ายๆ ว่า อาเจียน ซึ่งวิธีการลดน้ำหนักเหล่านี้เป็นวิธีที่คุณไม่ควรทำ และเป็นวิธีที่ผิดมากสำหรับผู้ที่อยากลดน้ำหนัก เพราะนอกจากจะทำให้การลดน้ำหนักของคุณไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่หวังแล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายเสียอีกด้วย บางคนลดน้ำหนักจนผอมแห้งและโทรม โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว แต่มารู้สึกอีกทีก็ตอนใครๆทัก ซึ่งถือว่าเป็นการลดน้ำหนักที่ค่อนข้างอันตราย และทำให้ชีวิตคุณไม่มีความสุข รู้สึกหม่นหมอง หมดแรง เครียดจากการลดน้ำหนักจริงจังและกดดันมากจนเกินไป
 
สำหรับใครที่อยากลดน้ำหนัก ลองตั้งเป้าหมายการลดน้ำหนักก่อนว่าอยากลดน้ำหนักลงกี่กิโลกรัม ลดน้ำหนักอย่างไรไม่ให้เครียดเกินไป หรือลดน้ำหนักอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและไม่ให้เกิดผลกระทบที่อันตรายต่อสุขภาพหลังจากลดน้ำหนัก ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการลดน้ำหนักล่วงหน้า หรือพิจารณาดูรีวิวจากผู้ที่ลดน้ำหนักมาแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี สุขภาพดีอยู่หลังจากที่ลดน้ำหนัก หรือถ้าใครไม่รู้จะเริ่มการลดน้ำหนักด้วยวิธีใด หรือควรทำอย่างไรก่อน เรามีวิธีง่ายๆ สำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักมาฝากกันด้วยค่ะ
 

วิธีการลดน้ำหนักที่คุณสามารถเริ่มต้นลดน้ำหนักเองได้ง่ายๆ ดังนี้

  1. ดื่มน้ำเปล่า - การดื่มน้ำเปล่ามากๆ 2-3 ลิตร ในหนึ่งวัน ถือเป็นตัวช่วยที่ดีในการที่คุณจะลดน้ำหนัก เพราะน้ำเปล่าจะช่วยขับของเสียที่อยู่ภายใน และน้ำเปล่ายังช่วยลดแคลอรี ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้น จึงเป็นส่วนที่ทำให้คุณลดน้ำหนักได้ง่ายๆ เพียงแค่ดื่มน้ำเปล่าค่ะ
  2. งดอาหารรสจัด ของหวาน/ขนมหวาน น้ำหวาน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ - หากคุณอยากลดน้ำหนักแต่ก็ยังงดอาหารหรือเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆ พยายามลดลงทีละน้อย อย่าหักดิบไปซะทีเดียว มิฉะนั้น หลังการลดน้ำหนักคุณจะรู้สึกอดและโหยหาอาหารเหล่านี้มากๆภายหลัง การลดน้ำหนักของคุณอาจจะไม่ได้ผลและอาจเกิดโยโย่เอฟเฟค (Yo-Yo Effect) ได้
  3. ห้ามอดอาหาร! แต่ใช้วิธีการลดน้ำหนักโดยการลดปริมาณการบริโภคแทน - ถึงแม้จะลดน้ำหนักแต่การรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะร่างกายยังคงต้องการสารอาหารอยู่ คุณจึงควรทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และทานให้ได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ตามที่ร่างกายต้องการ และถ้าจะลดน้ำหนักก็ต้องบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ พอดี อย่าให้มากเกินไป หรืออาจจะลองลดขนาดภาชนะสำหรับใส่อาหาร เพื่อลดปริมาณการรับประทานอาหารก็ได้นะคะ
  4. เพิ่มโปรตีนให้ร่างกาย - ต่อให้ลดน้ำหนัก ลดปริมาณอาหาร แต่โปรตีนอย่าให้ขาดเลยนะคะ เพราะโปรตีนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้ระบบการทำงานต่างๆของร่างกายเป็นปกติแม้ว่าจะลดน้ำหนักอยู่
  5. ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก เพิ่มการเผาผลาญ - หลายคนอยากลดน้ำหนักแต่มักไม่ออกกำลังกาย  ซึ่งถ้าอยากลดน้ำหนัก คุณควรที่จะต้องออกกำลังกายควบคู่ไปกับวิธีต่างๆที่ใช้ในการลดน้ำหนักด้วย เพราะช่วงเวลาที่คุณออกกำลังกายจะทำให้เกิดการเผาผลาญที่มากขึ้น ซึ่งคุณจะสามารถลดน้ำหนักตัวลงได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสุขภาพดี แข็งแรงทั้งร่างกายและผิวพรรณด้วยค่ะ
ใครที่จะลดน้ำหนัก แต่เริ่มต้นการลดน้ำหนักไม่ถูก ลองดู 4 วิธีง่ายๆ ที่คุณเริ่มต้นลดน้ำหนักเองได้ที่เราเอามาฝากกันคะ หากคุณทำเป็นกิจวัตรประจำวันหรือทำทุกวันบ่อยๆ ก็จะรู้สึกท้าทาย เริ่มสนุกกับการลดน้ำหนักมากขึ้น อย่างการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก คุณก็สามารถเลือกออกกำลังกายได้หลายวิธี แต่ย้ำนะคะ! อย่าหักโหมในการลดน้ำหนักเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความเครียดและอาจทำให้คุณต้องหันไปพึ่งทางลัดในการลดน้ำหนักที่ซึ่งอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย และอาจเกิดโยโย่เอฟเฟค (Yo-Yo Effect) ได้ภายหลัง การลดน้ำหนักของคุณก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ
 
โยโย่ เอฟเฟค (Yo-Yo Effcet) เกิดจากการลดน้ำหนักผิดวิธี น้ำหนักตัวเหวี่ยง เพิ่มขึ้น-ลดลง อย่างรวดเร็ว ซึ่งเรามักจะเห็นคนที่ผอมลง ลดน้ำหนัก ลดความอ้วนได้เร็ว แต่ไม่นานก็อ้วนขึ้น รูปร่างท้วม ลดน้ำหนักลงได้ยาก ระบบการเผาผลาญร่างกายผิดปกติ ล้วนมาจากการลดน้ำหนักที่ผิดวิธีนั่นเองค่ะ
 

โยโย่เอฟเฟค (Yo-Yo Effect) เอฟเฟคที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย หลังลดน้ำหนักผิดวิธี!

  1. ลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร - สาเหตุของการนำมาซึ่งโยโย่ เอฟเฟค (Yo-Yo Effect) เพราะเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเข้าสู่กระบวนการของความอยากอาหารมากผิดปกติ และทำให้เกิดการเพิ่มของน้ำหนักตัวขึ้นมา จากที่เคยลดน้ำหนักได้ ก็อาจจะทำให้ลดน้ำหนักแล้วไม่ลงอีกเลย
  2. ผิวหย่อนคล้อยหลังลดน้ำหนัก - หากคุณลดน้ำหนักผิดวิธี หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดปัญหากับผิว การที่คุณน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ผิวก็จะถูกยืดออก แต่เมื่อคุณลดน้ำหนักและน้ำหนักลดลงไปอย่างรวดเร็ว ผิวจะเกิดการหย่อนและคล้อยลงมา เรียกง่ายๆว่า ผิวไม่กระชับ ฉะนั้น ขณะลดน้ำหนักหรือหลังการลดน้ำหนัก คุณจำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายกระชับกล้ามเนื้อและเพื่อกระชับผิวด้วยนะคะ
  3. เกิดความผิดปกติทางร่างกาย เสี่ยงต่อโรคต่างๆ หลังการลดน้ำหนัก - โยโย่ เอฟเฟค (Yo-Yo Effect) ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะรูปร่างภายนอกหลังจากที่คุณลดน้ำหนักผิดวิธี แต่ยังเกิดผลกระทบต่อสุขภาพภายในร่างกายด้วย เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ หลังจากลดน้ำหนัก เช่น สูญเสียแร่ธาตุ ความดันเลือดสูง โรคหัวใจ ไขมันพอกตับ เป็นต้น รวมถึงการลดน้ำหนักที่ผิด อาจส่งผลต่อความรู้สึก อารมณ์ ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า หดหู่ หม่นหมอง เครียด ผิดหวัง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอาการหลังการลดน้ำหนัก ฉะนั้น อย่าทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยการลดน้ำหนักแบบผิดๆนะคะ
 
สำหรับการลดน้ำหนักไม่ว่าจะควบคุมอาหาร เลือกบริโภค หรือลดน้ำหนักด้วยวิธีใดก็ตาม คุณจะต้องออกกำลังกายควบคู่การลดน้ำหนักวิธีอื่นไปด้วย เนื่องจากการลดน้ำหนักจะส่งผลกระทบหลายอย่างต่อร่างกาย เราจึงต้องรักษารูปร่าง ผิวพรรณ ให้ดูดีและเปล่งปลั่งอยู่เสมอ ไม่ให้เกิดความหย่อนคล้อยผิว การออกกำลังกายถือเป็นการเพิ่มการเผาผลาญ ช่วยให้รูปร่างดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อยหลังการลดน้ำหนัก ที่สำคัญ...ยังทำให้คุณสุขภาพดีอีกด้วย และอย่าเลือกลดน้ำหนักผิดวิธี ไม่อดอาหาร ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ลงจริงๆ ลดน้ำหนักลงได้อย่างต่อเนื่อง เลือกลดน้ำหนักโดยเริ่มจากวิธีง่ายๆก่อน  อย่าลืมนะคะว่า โยโย่ เอฟเฟค (Yo-Yo Effect) สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหลังการลดน้ำหนัก หรือหากท่านใดต้องการปรึกษาเรื่องการลดน้ำหนัก ดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วน สามารถสอบถามได้ที่ SparSha ทุกสาขาค่ะ

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line :  Line @sparsha

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

 

ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife