ศัลยกรรมตา 2 ชั้นแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง (Double Eyelid Surgery)

ศัลยกรรมตา 2 ชั้นแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง (Double Eyelid Surgery)

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ตาสวยสะกดทุกสายตา กับเทคนิคศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่เหมาะสมเฉพาะคุณ

ดวงตาที่สวยงาม ไม่ได้หมายความว่าต้องมีตาสองชั้นเท่านั้น แต่การมีดวงตาที่รูปทรง สัดส่วน โครงสร้าง ทุกๆ องค์ประกอบรวมกันแล้วทำให้ใบหน้าของบุคคลนั้นๆ สวยงาม มีเสน่ห์ ชวนให้มอง จึงถือได้ว่าเป็นดวงตาที่สวยงามเหมาะสม แต่หลายคนก็ไม่ได้มีดวงตาที่เพอร์เฟ็กอย่างที่ต้องการเสมอไป เพราะบางคนแม้มีตาสองชั้น แต่ก็อาจมองดูแล้วไม่ค่อยสวยเข้ากับหน้า หรือบางคนมีปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน บางคนก็มีปัญหาหนังตาตกบ้าง หรือแม้กระทั่งไม่มีชั้นตาเลยก็มี ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ก็เป็นวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาดวงตาในลักษณะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องศัลยกรรมตา 2 ชั้น หรือแก้ตา 2 ชั้นเท่านั้น แต่เป็นการศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง ไม่ใช่เสริมความงามแค่ดวงตา แต่ยังเสริมความงามให้ทั้งใบหน้าดูสวยเฉพาะในแบบคุณ
 

ศัลยกรรมตา 2 ชั้นแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

การศัลยกรรมตา 2 ชั้นไม่เพียงทำเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา แก้ไขข้อบกพร่องได้ในหลากหลายรูปแบบ โดยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ามีความต้องการแก้ไขปัญหาดวงตาในรูปแบบไหน ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่คนส่วนใหญ่จะนิยมทำเพื่อแก้ปัญหาดังต่อไปนี้
  1. แก้ปัญหาตาชั้นเดียว
    เป็นลักษณะตาไม่มีชั้นเลย สไตล์สาวหมวย ทำให้ตาดูมีขนาดเล็ก  หรือบางคนเคยมีตาสองชั้น แต่เมื่ออายุมากขึ้นหนังตาตกลงมาบดบังชั้นตาเดิม ก็สามารถทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้น ช่วยให้ดูเด็กลงได้อีกด้วย
  2. แก้ตา 2 ชั้นหลบใน
    ตาสองชั้นหลบในจะเป็นลักษณะที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่เวลาลืมตาขึ้นมาจะมองไม่เห็นชั้นตา ซึ่งอาจเกิดจากเปลือกตามีชั้นไขมันเยอะ หรือหนังตาหย่อนตกลงมาปิดชั้นตา ซึ่งแต่ละสาเหตุของปัญหาก็จะใช้เทคนิคการศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่แตกต่างกันไป เพื่อช่วยแก้ไขให้ชั้นตาชัดเจนขึ้นอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  3. แก้ปัญหาหนังตาตก เปิดตาได้ไม่สุด
    เป็นลักษณะตาที่มีเปลือกตาปิดตาดำลงมา เห็นตาดำน้อยกว่าคนปกติ ซึ่งจะทำให้ตาดูง่วง หน้าตาดูไม่สดใส ทั้งๆ ที่ก็สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี พักผ่อนเต็มที่ตลอด โดยสาเหตุของปัญหาหนังตาตกอาจมาจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ชอบขยี้ตาบ่อย เป็นภูมิแพ้ขึ้นตา หรือหนังตาตกมาแต่กำเนิด ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะช่วยแก้ปัญหาได้โดยตรง ด้วยการยกหนังตาให้เปิดโตมากขึ้น ให้เห็นดวงตากว้างมากขึ้น
  4. แก้ปัญหาตาสองข้างไม่เท่ากัน
    ตาสองข้างไม่เท่ากัน มักจะมีลักษณะการเปิดของตาไม่เท่ากัน ตาข้างนึงอาจเปิดได้กว้างกว่า ตาโตกว่าอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะช่วยปรับกล้ามเนื้อตาให้เปิดกว้าง ให้ตาทั้งสองข้างมีความสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ
  5. แก้ปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน
    ซึ่งในลักษณะนี้จะแตกต่างจากตาสองข้างไม่เท่ากันคือ การเปิดตาสองข้างเท่ากัน เพียงแต่ชั้นตาไม่เท่ากัน โดยการศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะช่วยทำชันตาใหม่ให้ดูสมดุลเท่ากัน ซึ่งในกรณีนี้อาจเกิดร่วมกับตาสองข้างไม่เท่ากันด้วยก็ได้ ดังนั้น การศัลยกรรมตา 2 ชั้นก็จะมีการใช้เทคนิคผสมผสานเพื่อให้ดวงตาทั้งสองข้างมีความสมดุลเท่ากันมากที่สุด
  6. แก้ปัญหาตาเล็ก ไม่สมดุลกับใบหน้า
    ในลักษณะนี้จะไม่ได้มีปัญหาที่ดวงตาอย่างเฉพาะเจาะจง แต่มีความต้องการอยากให้ดวงตากลมโตมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีชั้นตาใหญ่ชัดเจนก็ได้ ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อความต้องการลักษณะนี้ แพทย์จะมีการใช้เทคนิคเฉพาะที่ช่วยปรับให้ตาโตขึ้นอย่างเหมาะสมกับใบหน้า
  7. แก้ปัญหาเบ้าตาลึก
    ลักษณะดวงตาที่เห็นขอบกระดูกเบ้าตาชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม ดูมีอายุ โดยการศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อแก้ปัญหาเบ้าตาลึกมักจะใช้วิธีย้ายไขมันในตาด้วยเทคนิคเฉพาะ ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากกว่าแค่การเติมหรือฉีดสารเติมเต็มให้ใต้ตา
  8. แก้ปัญหาหัวตาปิด
    ลักษณะดวงตาที่มีหนังตาลวมาปิดบริเวณหัวตา ทำให้ตาดูเล็ก หรืออาจมองดูตาเหล่ก็ได้ ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะช่วยเปิดหัวตาให้มากขึน ช่วยให้ดวงตาดูยาวได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ
  9. แก้ตา 2 ชั้นที่เคยทำมาแล้ว
    บางคนอาจมีปัญหาหนังตาตกลงมาอีกครั้งหลังทำตาสองชั้นแล้ว หรือชั้นตาเล็กลง ชั้นตาหลุด ก็สามารถทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นอีกครั้งเพื่อแก้ไขหนังตา ทำตาสองชั้นใหม่ได้ แต่หากเป็นกรณีที่ทำตาสองชั้นมาแล้วเกิดมีปัญหาว่าชั้นตาใหญ่ไป ดูตาปรือ ตาปลิ้น ซึ่งก็อาจจะต้องใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ละเอียดขึ้นและซับซ้อนมากขึ้นในการแก้ตา 2 ชั้นลักษณะนี้
 
ทั้งนี้ การศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับดวงตาในลักษณะต่างๆ สามารถทำเพื่อแก้ไขโดยเฉพาะ หรือทำร่วมกับการศัลยกรรมตา 2 ชั้นควบคู่กันไปก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม การศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่น่าพึงพอใจสูงสุด ต้องมีการพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและดีที่สุดในทุกกรณี
 

ศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา ออกแบบ แก้ไขดวงตาให้สวยงามเฉพาะบุคคล

ไม่ว่าคุณจะต้องการทำตาสองชั้น แก้ปัญหาตาหลบใน แก้ไขปัญหาหนังตกตา ตาไม่เท่ากัน แก้ตา 2 ชั้นที่เคยทำมาแล้ว หรือแก้ไขปัญหาดวงตา พร้อมศัลยกรรมตา 2 ชั้นร่วมด้วยในคราวเดียว ที่สปาชามีทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะคุณ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการความงามด้านดวงตาอย่างใส่ใจ ไม่เพียงแค่ศัลยกรรมตา 2 ชั้นให้ตามความต้องการเท่านั้น แต่ยังมีการออกแบบดวงตาที่ต้องเหมาะสมกับใบหน้า ภายใต้หลักเกณฑ์ความงามสำหรับดวงตาดังนี้
  1. ความเหมาะสมของการเปิดหัวตาที่ต้องมองเห็นเต็มลูกตา
    การเปิดหัวตาอย่างพอเหมาะจะช่วยส่งเสริมดวงตาให้ดูสดใส ไม่บดบังตาดำ และการเปิดหัวตาทั้งสองข้างต้องสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ
  2. ระยะดวงตากับคิ้วที่ต้องได้สัดส่วน
    การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นไม่เพียงแค่แก้ไขปัญหาเท่านั้น แต่ต้องมองดูภาพรวมของใบหน้าเพื่อจะได้ส่งเสริมความงามได้อย่างเหมาะสม สวยน่ามอง
  3. หางตาต้องชี้ขึ้นสวยงามเหมาะสม
    หากหางตาตกจะทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง ไม่สดใส ดังนั้น ในการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่ช่วยยกหางตาขึ้นอย่างเหมาะสม แม้จะเป็นกการเปลี่ยนแปลงรูปทรงดวงตาเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ใบหน้าทั้งหมดดูสดใสขึ้นได้อย่างชัดเจน
  4. ดวงตาต้องเสมอกับขอบกระดูกเบ้าตา ไม่ให้ตาดูลึกหรือโปนออกมา
    จะช่วยลดความรู้สึกหน้าโทรม เปลี่ยนหน้าตาให้สดใสขึ้น
 
และด้วยองค์ประกอบที่สำคัญเหล่านี้ การศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่สปาชา ไม่ว่าเพื่อความสวยงามหรือแก้ปัญหาดวงตาในรูปแบบใดก็ตาม จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ให้ความรู้สึกสวยงามเป็นธรรมชาติ และเหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อส่งเสริมความงามให้คนๆ นั้นสวยที่สุดในแบบของตัวเอง
 
ศัลยกรรมตา 2 ชั้น Double Eyelid Surgery
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 

เทคนิคการศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา ตาสวยอย่างเป็นธรรมชาติสูงสุด

ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้น แก้ตา 2 ชั้น แก้ปัญหาดวงตาทุกรูปแบบ จะมีการใช้เทคนิคการศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่แตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ของแต่ละบุคคล โดยก่อนทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีการพูดคุยถึงแนวทางการรักษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบความต้องการของคนไข้มากที่สุด และให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติสูงสุด โดยเทคนิคการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา จะใช้ 2 เทคนิคเป็นส่วนใหญ่ ดังนี้
 
  1. ศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) เทคนิคเปิดแผลเล็ก
    การศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) แบบเทคนิคเปิดแผลเล็ก จะเป็นวิธีการผ่าตัดแบบกรีดสั้น เปิดแผลเพียงแค่ 1 เซนติเมตรก็สามารถให้การทำตาสองชั้นที่มีลายเส้นคมชัด แต่ไม่หนา ไม่หลอกตา ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติสูงสุด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีหนังตามากเกินไป โดยการศัลยกรรมตา 2 ชั้นเทคนิคเปิดแผลเล็กนี้ แพทย์จะกรีดแผลขนาดเล็กบริเวณเปลือกตาบน และทำการกำจัดไขมันที่ไม่จำเป็นบางส่วนออกไป หลังจากนั้นจึงค่อยเย็บปิดแผล ซึ่งเทคนิคนี้จะนิยมในการทำตาสองชั้นเพื่อแก้ปัญหาในคนที่ไม่มีชั้นตา หรือต้องการทำชั้นตาใหม่ให้เห็นชัดเจนขึ้น
  2. ศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) เทคนิคเปิดแผลยาว
    การศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) แบบเทคนิคเปิดแผลยาว จะเป็นวิธีการผ่าตัดแบบกรีดยาวตลอดแนว เปิดแผลประมาณ 2.5-4 ซม. ที่จะให้ผลลัพธ์เส้นตาคมชัดตลอดแนวชั้นตา และสามารถตัดหนังตาส่วนเกินออกได้อย่างแม่นยำ เอาไขมันออกได้ในคราวเดียว เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันที่เปลือกตามาก เปลือกตามีผิวหนังที่หนา หรือเปลือกตามีกล้ามเนื้อมาก โดยการศัลยกรรมตา 2 ชั้นด้วยเทคนิคเปิดแผลยาวนี้ แพทย์จะกรีดแผลยาวตลอดแนว เพื่อเปิดดวงตาให้โตขึ้น มีการเปิดความยาวและความกว้างของตา เพื่อช่วยยกหนังตาขึ้น จากนั้นจึงมีการเย็บชั้นกล้ามเนื้อตา ซึ่งเทคนิคนี้จะนิยมใช้ในการแก้ปัญหาตาหลบใน แก้ปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย แก้ตา 2 ชั้น
 
อย่างไรก็ตาม แต่ละเทคนิคศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) จะต้องผ่านการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแนวทางในการรักษา และออกแบบการทำตาสองชั้น แก้ตา 2 ชั้น ไปจนถึงแก้ปัญหารูปทรงตาในทุกรูปแบบให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
 

ผลลัพธ์การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา

ทีมศัลยแพทย์ของสปาชาจะมีการเลือกใช้เทคนิคศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่เหมาะกับการแก้ไขปัญหาของแต่ละบุคคลอย่างดีที่สุด โดยแต่ละเทคการศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่สปาชาจะให้ผลลัพธ์ดวงตาที่สวยงามเป็นธรรมชาติสูงสุด เหมือนไม่ได้ผ่านมีดหมอมาแม้แต่น้อย แต่เนรมิตให้ชั้นตาคมชัดเหมาะสม ดวงตากลมโตสวยงาม และให้การแก้ไขปัญหาได้อย่างน่าพึงพอใจ และเนื่องด้วยการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ ในการทำศัลยกรรมที่ทันสมัย จึงให้ความปลอดภัย เจ็บน้อย บวมช้ำไม่มาก ฟื้นตัวได้เร็ว
 
โดยการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชาจะต้องมีการพูดคุยและปรึกษากับแพทย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ได้แนวทางในการรักษา การทำตาสองชั้นที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง ดังนั้น ผลลัพธ์การศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่สปาชาจึงสามารถให้การตอบโจทย์ในแบบที่น่าพึงพอใจ ตาสวยในสไตล์ที่ใช่คุณมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ตาจะสวยเข้าที่หลังจากทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นไปแล้ว 1-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการทำตาที่แก้ปัญหาแตกต่างไปของแต่ละคน
 

ระยะเวลาในการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา

ระยะเวลาในการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่สปาชาอาจมากหรือน้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ศัลยกรรมตา 2 ชั้น และความยากง่ายในแต่ละกรณี ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีในการผ่าตัด แต่หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ และจะมีการนัดตัดไหมภายใน 7 วัน และมีการนัดติดตามผลอย่างต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง เพื่อมั่นใจว่าไม่มีปัญหาใดๆ หลังทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นไปแล้ว
 

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา

การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา ไม่ว่าจะต้องการทำตาสองชั้น แก้ตา 2 ชั้น แก้หนังตาตก ยกหางตา หรือไม่ว่าจะจัดการปัญหาเกี่ยวกับดวงตารูปแบบใดก็ตาม หลังจากได้พูดคุยเพื่อหาแนวทางในการรักษากับแพทย์เรียบร้อยแล้ว จะต้องมีการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นทุกรูปแบบดังนี้
 

ก่อนผ่าตัดทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) 1 สัปดาห์

 

ก่อนผ่าตัดทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) 1 วัน

 
นอกจากนี้ หากมีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด และหลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิดก่อนทำการผ่าตัด และแนะนำว่าให้พกแว่นกันแดดติดตัวมาด้วย ช่วยป้องกันฝุ่นละอองเข้าตาในระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้น
 

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชา

การศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid Surgery) ที่สปาชาทุกรูปแบบ แพทย์จะใช้เทคนิคเฉพาะทางที่ช่วยให้เจ็บน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว และไม่จำเป็นต้องค้างคืนเพื่อพักฟื้น สามารถกลับไปดูแลตัวเองต่อที่บ้านได้เลย ซึ่งการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้แผลหายไว ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาหลังการผ่าตัดได้อย่างดี โดยควรมีการดูแลตัวเองดังต่อไป
 
  1. แนะนำให้พักหลังผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้นทุกรูปแบบ 1-2 วันขึ้นไป เพื่อลดการใช้สายตาและมีเวลาประคบแผลมากขึ้น แผลจากการผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะได้หายไวขึ้น
  2. หลังการผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้น ภายใน 24 ชั่วโมง ให้เริ่มทายาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้งตามแพทย์สั่งที่บริเวณแผลตรงเปลือกตา และใน 7 คืนแรกให้นอนศีรษะสูงกว่าปกติ เพื่อลดอาการบวม
  3. ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และห้ามขยี้ตาหรือเกาบริเวณผ่าตัดจนกว่าจะตัดไหม
  4. การทำความสะอาดแผล ให้ใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล โดยควรทำความสะอาดแผลศัลยกรรมตา 2 ชั้น วันละ 1-2 ครั้ง
  5. ควรประคบเย็นบริเวณหน้าผากและรอบดวงตาในช่วง 2 วันแรกหลังการผ่าตัด และวันที่ 3 เป็นต้นไป หากมีรอยเขียวช้ำ ให้ประคบอุ่น จะช่วยให้หายเร็วขึ้น แต่ถ้าไม่มีรอยเขียวช้ำก็สามารถประคบเย็นต่อไปได้
  6. รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด สามารถรับประทานยาแก้อักเสบ และยาลดบวมได้ หากปวดก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ และสำหรับยาหรือวิตามินที่หยุดกินก่อนผ่าตัด สามารถกินได้หลังผ่าตัดวันที่ 3ไปแล้ว หรือเมื่อไม่มีเลือดซึมออกมาแล้ว
  7. เริ่มล้างหน้าได้หลังผ่าตัด 3 วัน และเริ่มแต่งหน้าได้บางๆ แต่หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 1 – 2 สัปดาห์ จะสามารถแต่งบริเวณตาได้ตามปกติ
  8. ภายใน 5-7 วัน ก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้แล้ว แต่พยายามใส่แว่นตากันแดดเพื่อป้องกันฝุ่น กันลม กันสิ่งสกปรกเมื่อต้องออกไปกลางแจ้ง
  9. ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และงดกิจกรรมหนักต่างๆ ในช่วง 6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด และหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง ไข่ อาหารทะเล 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูนคัน
  10. อาการบวมหลังการผ่าตัดจะมีอยู่ประมาณ 3 วัน และจะเริ่มยุบบวมในวันที่ 4 ไปเรื่อยๆ และจะค่อยๆ หายไปภายใน 2 – 3 สัปดาห์ ซึ่งหลังจากผ่านสัปดาห์ที่ 4 ไปแล้วถึงจะเริ่มเห็นชั้นตาชัดเจนขึ้น และจะเข้าที่จริงๆ ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
  11. ผลข้างเคียงที่อาจพบได้บ้าง ก็จะเป็นพวกอาการฟกช้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแค่ 2 – 3 สัปดาห์ รอยฟกช้ำก็จะหายไปหมด ซึ่งหลังการผ่าตัดในระยะแรกอาจจะมีการบวมที่ทำให้ตาดูไม่เท่ากันได้ ต้องรอให้อาการบวมหายเป็นปกติก่อน จึงจะทำให้ชั้นตาเท่าๆ กันได้ปกติ
  12. สำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ ควรได้รับการพิจารณาจากศัลยแพทย์ก่อนถึงจะสามารถกลับไปใส่ได้อีกครั้ง

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line :  Line @sparsha

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

 

ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife