เทคนิคการดูดไขมันปลอดภัยไม่อันตราย Fat Duo Reduction

เทคนิคการดูดไขมันปลอดภัยไม่อันตราย Fat Duo Reduction

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ดูดไขมันยุคใหม่ ปลอดภัย ไม่เสี่ยง

การดูดไขมันไม่ใช่เรื่องที่อันตราย และไม่ได้เป็นเรื่องของคนอ้วนเท่านั้น แต่การดูดไขมันเป็นเทคนิคสำหรับทุกคนที่ต้องการมีรูปร่างสัดส่วนที่ดี ต้องการจัดการปัญหาไขมันให้หายไปอย่างรวดเร็ว และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาเทคนิคการดูดไขมันให้ก้าวกระโดดออกจากอันตรายไปอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในศัลยกรรมเพื่อความงามที่ให้ความปลอดภัยมากถึงมากที่สุด เพราะว่าในปัจจุบัน
 

ทำความรู้จักการดูดไขมันยุคใหม่

การดูดไขมัน (Liposuction) นับเป็นเทคนิคการศัลยกรรมประเภทหนึ่งเพื่อนำไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย และการดูดไขมันมีเพียงเทคนิคเดียวในการทำ คือการทำให้ไขมันหลวมเพื่อดูดไขมันออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น แต่วิธีการทำให้ไขมันหลวมต่างหากที่หลากหลาย โดยมีทั้งหมด 5 วิธีดังต่อไปนี้
 
  1. การดูดไขมันด้วยวิธี Vaser
    จะเป็นการดูดไขมันโดยการใช้เทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานคลื่นเสียง Ultrasound เข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมัน ทำให้ไขมันกลายเป็นของเหลว จากนั้นจึงดูดไขมันออกมา
  2. การดูดไขมันด้วยวิธี Body Tite
    การดูดไขมันด้วยวิธีนี้จะใช้เทคโนโลยีพลังงาน RF (Radio Frequency) ยิงเข้าสลายไขมันให้กลายเป็นของเหลวแล้วจึงทำการดูดไขมันออกมา
  3. การดูดไขมันด้วยวิธี Water Jet
    วิธีนี้จะใช้พลังงานน้ำเข้าไปแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อผิวหนัง แล้วทำการดูดเฉพาะเซลล์ไขมันออกมา ซึ่งวิธีนี้จะได้รับความนิยมในการดูดไขมันเพื่อนำออกมาฉีดส่วนต่างๆ ในร่างกายทดแทนฟิลเลอร์
  4. การดูดไขมันด้วยวิธี Smart Lipo
    วิธีนี้จะใช้เลเซอร์ในการสลายเซลล์ไขมัน โดยจะเป็นการดูดไขมันกึ่งผ่าตัด คือยิงเลเซอร์เข้าไปก่อน หลังจากนั้นจึงดูดไขมันออกมา
  5. การดูดไขมันด้วยวิธี Pal
    การดูดไขมัน แบบ PAL หรือ Power Assisted Liposuction เป็นการดูดไขมันแบบใช้การสั่นสะเทือนผ่านท่อดูดอัตโนมัติที่มีมอเตอร์สั่นสะเทือนปลายท่อช่วยในการดูดไขมัน
 
ทั้งนี้ การดูดไขมันด้วยวิธีต่างๆ นั้นมีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมในการรักษาที่แตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการทำให้ไขมันหลวมเหล่า ทำให้การดูดไขมันยุคใหม่นั้นทำง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาสลบ ใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ก็ได้ เจ็บน้อยลง ช้ำน้อยลง ลดความเสี่ยงต่ออาการแทรกซ้อน ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยายาม แต่ให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก
 

คนรูปร่างทั่วไปก็ดูดไขมันได้ ไม่จำเป็นต้องอ้วน

การดูดไขมันไม่ได้เหมาะสำหรับคนอ้วนเท่านั้นอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่การดูดไขมันเหมาะสำหรับใครก็ได้ที่ต้องการรักษาปัญหาไขมันสะสมส่วนเกินที่แก้ได้ยาก ซึ่งการดูดไขมันเหมาะสมอย่างมากสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
 

บริเวณที่คนส่วนใหญ่นิยมดูดไขมัน

การดูดไขมันไม่สามารถทำได้ทุกบริเวณของร่างกาย เพราะบางส่วนของร่างกายมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีเส้นประสาทจำนวนมากอย่างเช่น ใบหน้า ไม่ควรทำการดูดไขมัน นอกจากนี้ การดูดไขมันบริเวณน่องก็อาจไม่ช่วยตอบโจทย์เรื่องผลลัพธ์น่องเล็กลงเท่าที่ควร เพราะน่องมีกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันก็ยังสามารถทำได้ในหลากหลายบริเวณเพื่อช่วยจัดการปัญหาเรื่องไขมันสะสม ไขมันเฉพาะส่วน ช่วยกระชับสัดส่วน ให้รูปร่างดูดีขึ้น ดูเหมาะสมขึ้น ซึ่งไม่ใช่เป็นการลดน้ำหนักแต่อย่างใด โดยบริเวณที่คนส่วนใหญ่นิยมจัดการปัญหาไขมันสะสมที่แก้ได้ยากด้วยการดูดไขมันออกไปนั้น มีดังต่อไปนี้
  1. ดูดไขมันหน้าท้อง เป็นบริเวณที่มีไขมันพอกพูนสะสมเป็นจำนวนมาก คนส่วนใหญ่นิยมทำการดูดไขมันหน้าท้องเพื่อลดขนาด เพื่อให้สัดส่วนดูดียิ่งขึ้น
  2. ดูดไขมันต้นแขน ใต้ท้องแขน ลดปัญหาไขมันสะสมเฉพาะบริเวณ ช่วยจัดการปัญหาแขนใหญ่แขนย้วยได้อย่างเฉพาะเจาะจง แต่สำหรับบุคคลที่ท้องแขนห้อยมาก อาจต้องใช้การรักษารูปแบบอื่นร่วมกับการดูดไขมันเพื่อช่วยให้ต้นแขนกระชับขึ้น
  3. ดูดไขมันต้นขา เพราะต้นขาเป็นอีกหนึ่งบริเวณไขมันสะสมขนาดใหญ่ที่กำจัดได้ยาก ซึ่งการดูดไขมันจะช่วยลดขนาดต้นขาลงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถทำการดูดไขมันรอบขาได้ เพื่อให้มีขาเรียวเล็กสมส่วน
  4. ดูดไขมันคางหรือเหนียง เป็นบริเวณที่ไขมันสะสมเฉพาะส่วนที่ลดน้ำหนักก็ยังไม่สามารถลดไขมันใต้คางออกไปได้ การดูดไขมันจะช่วยจัดการปัญหาคางหนาเหนียงใหญ่ได้อย่างเฉพาะจุด
  5. ดูดไขมันสะโพก บางคนมีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะส่วนสะโพก ทำให้สะโพกใหญ่เกินรูปร่าง สะโพกใหญ่เด่นชัดเกินไป มีปัญหากับไซส์เสื้อผ้าเพราะว่าสะโพกใหญ่ การดูดไขมันจะช่วยให้สะโพก ก้น เล็กลงอย่างเหมาะสม
  6. ดูดไขมันเอว สาวๆ หลายคนไม่ได้มีปัญหารูปร่าง แต่ต้องการมีเอว S การดูดไขมันเฉพาะส่วนเอวก็ช่วยสร้างความเว้าให้เห็นเอวชัดขึ้นได้
  7. ดูดไขมันบริเวณปีกนางฟ้า หรือบริเวณปีกด้านหลังที่มีไขมันล้นเสื้อชั้นในออกมา รวมถึงบริเวณใต้รักแร้ที่มีก้อนเนื้อปลิ้นออกมา การดูดไขมันก็สามารถช่วยจัดการปัญหาในจุดเล็กๆ ได้
  8. ดูดไขมันหน้าอก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาของผู้ชายที่มีเต้านมที่โต และบางคนก็มีปัญหาเต้านมหย่อนคล้อยร่วมด้วย การดูดไขมันหน้าอกร่วมกับการผ่าตัดจะช่วยจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
นอกจากนี้ การดูดไขมันยังสามารถทำได้ในอีกหลายบริเวณในร่างกาย ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคลและความเหมาะสมในการรักษา ซึ่งควรอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้ตอบโจทย์การแก้ปัญหาด้านไขมันสะสมได้อย่างตรงจุดที่สุด
 
การดูดไขมัน Fat Duo Reduction
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 

Fat Duo Reduction เทคนิคการดูดไขมันใหม่ล่าสุดจากสปาชา

นวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อการดูดไขมันที่ดีที่สุด กับเทคนิค Fat Duo Reduction ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการดูดไขมัน ด้วยการผสานสองเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ให้ผลลัพธ์การดูดไขมันได้ในปริมาณมากและตรงจุด พร้อมทั้งกระชับผิวในคราวเดียว ทำให้สามารถจัดการปัญหาไขมันเฉพาะส่วนได้อย่างแม่นยำ ลดโอกาสเกิดปัญหาผิวไม่กระชับ ผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมัน ช่วยให้สัดส่วนดูดีได้โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลใดๆ เจ็บน้อย แต่ปลอดภัยมาก ทั้งยังให้ผลลัพธ์คุณภาพ สัดส่วนกระชับเนียนละเอียด
 
โดยการดูดไขมันด้วยเทคนิค Fat Duo Reduction จะเริ่มจากการใช้เครื่องมือเฉพาะทางนำเข้าจากต่างประเทศที่สามารถดูดไขมันออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวบริเวณข้างเคียง ไม่ส่งผลกระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณอื่นเช่น เส้นเลือด เส้นประสาท จึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงบาดเจ็บให้น้อยลง รวมถึงลดโอกาสเกิดแผลได้อย่างน่าพึงพอใจ และจากนั้นจึงใช้อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ทันสมัยในการเก็บรายละเอียดการดูดไขมันให้ได้ประสิทธิภาพ ดูดไขมันแม้ในบริเวณที่ทำได้ยากได้อย่างละเอียด พร้อมช่วยในการกระชับผิว ลดโอกาสเกิดผิวหย่อนคล้อย ผิวเป็นคลื่น จึงช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนอย่างทันที อวดรูปร่างได้โดยไม่ต้องกลัวแผล
 

การดูดไขมันที่สปาชา ให้การรักษาเทียบเท่าโรงพยาบาลชั้นนำ

ที่สปาชา พร้อมให้บริการดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ภายใต้มาตรฐานเครื่องมือเฉพาะทางสำหรับการดูดไขมันระดับโลก ทั้งยังมีการออกแบบระบบห้องผ่าตัดในรูปแบบเดียวกับโรงพยาบาลชั้นนำ พร้อมกับทีมศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง สามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทยมาให้การรักษาและคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดทั้งก่อนและหลังการดูดไขมัน เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาเป็นที่น่าพึงพอใจสูงสุด ให้คุณวางใจได้ในทุกขั้นตอนรักษาที่สปาชา ดังนี้
 

เครื่องมือมาตรฐานระดับโลก ไม่เสี่ยงอันตราย

ด้วยมาตรฐานเครื่องมือสมัยใหม่ ช่วยลดความเสี่ยงในการดูดไขมันให้น้อยลงที่สุด จัดการปัญหาไขมันเฉพาะส่วนโดยที่ส่วนนั้นไม่เสี่ยงเนื้อเยื่อผิวเสียหาย ช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพโดยไม่เจ็บปวด ไม่บวม ไม่มีรอยช้ำรุนแรง
 

ให้บริการอย่างใส่ใจ ทั้งแพทย์ พยาบาล และผู้ช่วยทุกคน

การดูดไขมันยุคใหม่ แม้จะลดความเสี่ยงอันตรายลงไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังต้องการคนที่มีความเชี่ยวชาญ ความรู้ ความเข้าใจที่จะมาดูแลและให้บริการอย่างใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนทำ เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ระหว่างทำ ที่ตั้งแต่เริ่มใส่ยาชาก็ต้องมีความถูกต้องเหมาะสม รวมถึงใช้เทคนิคที่ช่วยให้เจ็บปวดน้อย ปลอดภัยสูง และไปจนถึงหลังทำที่ทางทีมจะมีติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อมั่นใจว่าผลการรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น
 

สะอาด ถูกสุขอนามัย

ครบครันด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และการออกแบบห้องผ่าตัดที่มีระบบการฆ่าเชื้อตามมาตรฐานโรงพยาบาลชั้นนำ รวมถึงบุคลากรที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยลดความเสี่ยงทางด้านการติดเชื้อ สะอาด ปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม
 

ผลลัพธ์การดูดไขมันที่สปาชา

ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่อยู่ในระดับโรงพยาบาลศัลยแพทย์ชั้นนำที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือเฉพาะทางที่ทันสมัย ไปจนถึงความสะอาดปลอดภัยภายใต้มาตรฐานระดับสูง รวมถึงเทคนิคการดูดไขมันสุดล้ำที่ให้ผลลัพธ์แตกต่างจากการดูดไขมันทั่วไป ให้คุณวางใจได้ในการดูดไขมันที่มีความปลอดภัยสูง เครื่องมือที่ทันสมัยก็ช่วยให้เสี่ยงต่อความเจ็บปวดน้อย แผลเล็ก ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่ให้ผลลัพธ์การรักษาที่เห็นผลรวดเร็ว สามารถนำไขมันออกมาได้ในปริมาณจริง เห็นได้ชัดถึงสัดส่วนที่ลดลง จัดการปัญหาไขมันเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังไม่สร้างผลกระทบให้กับผิวในบริเวณที่ทำอีกด้วย
 

การรักษาการดูดไขมันที่สปาชา

การดูดไขมันที่สปาชาต้องผ่านการพิจารณาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง โดยระยะเวลาในการดูดไขมันจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน โดยอาจจะอยู่ที่ประมาณ 1-3 ชั่วโมง แต่หลังจากดูดไขมันเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้โดยจะมีการติดตามผลประมาณ 3-4 ครั้งหลังทำ
 

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน

หลังจากได้ข้อสรุปกับแพทย์เกี่ยวกับการดูดไขมันเรียบร้อยแล้ว ควรมีการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนทำการดูดไขมัน ดังต่อไปนี้
  1. งดยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin หรือ Plavix สองอาทิตย์ก่อนการทำ
  2. งดอาหารเสริมและยาตัวอื่นๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
  3. งดสูบบุหรี่สองอาทิตย์ก่อนการทำ ดูดไขมัน เพราะการสูบบุหรี่ทำให้แผลหายช้าและอาจจะเกิดผลแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าปกติ
  4. ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัว หรือการใช้ยาและอาหารเสริมบางชนิด เนื่องจากยาหรืออาหารเสริมบางชนิดมีผลทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน หรือยาแก้ปวดบางชนิด อาหารเสริมประเภทน้ำมันปลา หรือน้ำมันตับปลา หรือวิตามินซี เป็นต้น
 

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

การดูดไขมันถือเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมประเภทหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องมีการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพและน่าพึงพอใจมากที่สุด
  1. หลังการดูดไขมันอาจมีอาการบวมเขียวช้ำได้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ แต่จะไม่ส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวัน ให้รับประทานยาติดต่อกันตามแพทย์สั่งอย่าให้ขาด ถ้ามีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  2. งดการอาบน้ำในวันแรกหลังทำ แต่สามารถอาบได้ในวันถัดไป และให้ปิดพลาสเตอร์กันน้ำในบริเวณที่ผ่านการดูดไขมันอย่างมิดชิด
  3. ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชม. ในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อป้องกันการเกิดก้อน ผิวไม่เรียบในบริเวณที่ดูดไขมัน
  4. งดกิจกรรมหนัก เพื่อป้องกันแผลเปิด สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ แต่หลังจาก 2-4 สัปดาห์ไปแล้ว สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
  5. งดทานของเค็ม และแอลกอฮอล์ รวมถึงของหมักดองเพื่อไม่ให้แผลหายช้า และควรมีการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อดูแลไม่ให้ไขมันเพิ่มพูนมากเช่นเดิม
  6. หากมีอาการผิดปกติให้ปรึกษาแพทย์ทันที

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line :  Line @sparsha

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

 

ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife