สลายไขมันลดสัดส่วนทั้งตัวด้วย Renew Perfect Body

สลายไขมันลดสัดส่วนทั้งตัวด้วย Renew Perfect Body

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ดูแลรูปร่างให้เพอร์เฟ็กต์ในแบบของตัวเอง กับ Renew Perfect Body by SparSha

รูปร่างที่ดูดี สมบูรณ์แบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นหุ่นนางแบบผอมเพรียว ขาเรียวยาว หรือหุ่นนายแบบสูง 180 มีกล้ามนิดๆ เสมอไป เพราะไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างแบบไหนก็สามารถออกแบบสัดส่วนเฉพาะตัวให้ดูดีมั่นใจได้ โดยการทำให้รูปร่างของคุณดูเหมาะสม เรือนร่างสมส่วนสวยงาม แต่แน่นอนว่า การมีรูปร่างสัดส่วนที่สวยงามสมไซส์นั่นแหละคืองานยากที่สุด เพราะต้องเข้าใจก่อนว่า หุ่นดี ไม่ใช่แค่ผอมเสมอไป ดังนั้น จะมีรูปร่างที่เพอร์เฟ็กต์ในแบบของตัวเองได้ต้องใช้วินัยในการสร้างพอสมควร
 

เช็ครูปร่างก่อนสร้างหุ่น

ก่อนละลดสัดส่วน สร้างรูปร่างที่เหมาะสมกับตัวเอง ต้องทำความรู้จักกับลักษณะรูปทรงร่างกายตัวเอง เพื่อให้รู้ว่าความสวยงามโดดเด่นของเราคือจุดไหน และจุดด้อยของเราอยู่ตรงส่วนไหน เพื่อที่จะได้จัดการแก้ปัญหารูปร่างให้โดดเด่นลบความด้อยได้ โดยปกติแล้วสำหรับผู้หญิง รูปร่างจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้
  1. รูปร่างทรงแอปเปิ้ล
    หุ่นทรงแอปเปิ้ลคือคนที่ช่วงไหล่กับสะโพกจะมีขนาดเท่ากัน จะมีช่วงอก เอว และสะโพกแตกต่างกันเล็กน้อย แต่สะโพกจะเล็กกว่าช่วงอกประมาณ 6 นิ้ว และถ้าอยากรู้ว่าคุณรูปร่างทรงแอปเปิ้ลหรือไม่ สังเกตได้ดังนี้ สะโพกกับไหล่มีความกว้างเท่ากัน ส่วนรอบเอวอาจกว้างเท่ากันหรือกว้างกว่า น้ำหนักตัวมักจะไปอยู่ที่บริเวณรอบเอวเป็นหลักเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งอาจมีแขนและขาเรียวเล็กและสั้นกว่า สะโพกช่วงบนกว้างกว่าสะโพกช่วงล่าง หน้าอกหรือช่วงกลางลำตัวใหญ่กว่าสะโพก ซึ่งบางคนอาจมีลำตัวสั้น ต้นขาหรือสะโพกอาจเป็นส่วนที่แคบที่สุดของร่างกาย
  2. รูปร่างทรงลูกแพร์
    หุ่นทรงลูกแพร์คือสะโพกจะกว้างกว่าช่วงไหล่ และที่สำคัญกว้างกว่าช่วงอกด้วย หากวัดเป็นตัวเลข สะโพกของคนลักษณะนี้จะใหญ่กว่าช่วงไหล่หรือช่วงอกประมาณร้อยละห้า แต่ข้อดีของรูปร่างทรงลูกแพร์คือจะมีช่วงกลางลำตัวเพรียวบาง สามารถอวดช่วงเอวและทำให้ช่วงบนมีความสมดุลกับช่วงล่างที่กว้างกว่าได้ และถ้าอยากรู้ว่าคุณรูปร่างทรงลูกแพร์หรือไม่ สังเกตได้ดังนี้ สะโพกกว้างกว่าช่วงไหล่ ช่วงไหล่โค้งลาดลง เอวโค้งเว้าสวยงาม (และอาจมีหน้าท้องที่แบนราบด้วย) บั้นท้ายกับต้นขากลมกลึงและเต่งตึง น้ำหนักตัวจะสะสมบริเวณต้นขา
  3. รูปร่างทรงนาฬิกาทราย
    หุ่นทรงนาฬิกาทรายคือช่วงไหล่กับสะโพกจะมีขนาดเท่ากัน หรือต่างกันไม่เกิน 5% ส่วนรอบเอวจะเล็กกว่าช่วงไหล่ สะโพก และหน้าอกอย่างน้อย 25% หรือประมาณ 8-12 นิ้ว และถ้าอยากรู้ว่าคุณรูปร่างทรงนาฬิกาทรายหรือไม่ สังเกตได้ดังนี้ สะโพกกับช่วงไหล่มีความกว้างพอๆ กัน ช่วงไหล่โค้งลาดลง เอวโค้งเว้าสวยงาม ก้นค่อนข้างกลม สะโพกช่วงล่างกว้างกว่าสะโพกช่วงบน ต้นขาอิ่มแต่แคบกว่าสะโพกช่วงล่าง น้ำหนักตัวมากบริเวณสะโพกและเหนือเอว
  4. รูปร่างทรงตรง
    หุ่นทรงตรงคือ ช่วงไหล่ รอบเอว หน้าอก และสะโพกจะมีขนาดใกล้เคียงกัน รูปร่างมีความเป็นหุ่นผู้ชาย และข้อสังเกตุของรูปร่างทรงตรงคือ สะโพก รอบเอว และช่วงไหล่มีความกว้างเท่ากัน รูปร่างทรงตรงจะกระจายน้ำหนักตัวเท่าๆ กัน แต่อาจสะสมอยู่บริเวณหลังส่วนบนหรือคอมากกว่าที่อื่น ช่วงไหล่ค่อนข้างตรง ก้นแบน อกเล็ก
  5. รูปร่างทรงสามเหลี่ยมคว่ำ
    หุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำคือช่วงไหล่มีความกว้างที่สุดของร่างกาย กว้างกว่าสะโพกเสียอีก โดยมีข้อสังเกตรูปร่างทรงสามเหลี่ยมคว่ำดังนี้ มีช่วงไหล่ตรง กว้าง กว้างกว่าช่วงเอวหรือสะโพก อาจมีก้นค่อนข้างแบน แต่อาจมีช่วงอกที่ใหญ่ และหลังที่แน่นกว่ารูปร่างทรงตรง และน้ำหนักตัวขึ้นก็มักจะไปสะสมอยู่ที่บริเวณลำตัวและหลัง

เช็คว่าตัวเองอ้วน ควรลดสัดส่วนหรือเปล่า?

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจริงๆ แล้ว เรานั้นอ้วนจนควรต้องลดสัดส่วนหรือไม่? ซึ่งถ้ามองในกระจกแล้วอาจไม่รู้สึกอะไรมากมาย ให้ลองใช้มาตรฐานการวัดร่างกายดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยคอนเฟิร์มว่ารูปร่างเรานั้นดีสมส่วน หรือควรลดสัดส่วน
  1. ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index)
    BMI คือ ค่าความหนาของร่างกาย ใช้เป็นมาตรฐานในการประเมินภาวะอ้วนหรือผอมในผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งคำนวนได้จากสูตรคือ ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง (เมตร)2 ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีน้ำหนัก 59 กิโลกรัม สูง 169 เซนติเมตร BMI = 59 ÷ (1.69)x2 =  17.45
    ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา สามารถประเมินได้ว่าคุณอยู่ในเกณฑ์ไหน ดังนี้
    • • น้อยกว่า 18.5 (ผอมเกินไป) น้ำหนักน้อยกว่าปกติก็ไม่ค่อยดีหากคุณสูงมาก แต่น้ำหนักน้อยเกินไปอาจเสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือได้รับพลังงานไม่เพียงพอส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียง่าย การรับประทานอาหารให้เพียงพอ และการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อสามารถช่วยเพิ่มค่าBMI ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้
    • • 18.6 - 22.9 (น้ำหนักปกติ) น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับคนไทยคือค่าBMI ระหว่าง 18.5-22.9 จัดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ห่างไกลโรคที่เกิดจากความอ้วนและมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ น้อยที่สุด ควรพยายามรักษาระดับค่า BMI ให้อยู่ในระดับนี้ให้นานที่สุด
    • • 23.0 - 24.9 (น้ำหนักเกิน) ต้องพยายามลดน้ำหนักให้เข้าสู่ค่ามาตรฐานเพราะค่า BMI ในช่วงนี้ยังถือว่าเป็นกลุ่มผู้ที่มีความอ้วนอยู่บ้าง แม้จะไม่ถือว่าอ้วนก็ตาม แต่หากประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงก็ถือว่ายังมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ
    • • 25.0 - 29.9 (อ้วน) อ้วนในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่ถือว่าอ้วนมากๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
    • • 30.0 ขึ้นไป (อ้วนเกิน) เข้าเกณฑ์อ้วนมาก เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงที่แฝงมากับความอ้วน หากค่า BMI อยู่ในระดับนี้จะต้องระวังการรับประทานไขมัน และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และยิ่งเลขสูงกว่า 40.0 ยิ่งแสดงถึงความอ้วนที่มากเกินไป
  2. Waist to hip Ratio อัตราส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก
    ค่า WHR เป็นตัวสะท้อนที่ดีค่าวัดที่ดีง่ายสะดวก ถ้าสัดส่วนเกินกว่านี้แสดงว่าเรามีไขมันสะสมรอบเอว โดยสูตรคำนวณคือ ความยาวรอบเอว ÷ ความยาวรอบสะโพก (ใช้หน่วยเดียวกัน)
    ตัวอย่างเช่น ความยาวรอบเอว 75 เซนติเมตร (30 นิ้ว) ความยาวรอบสะโพก 95 เซนติเมตร (38 นิ้ว)
    WHR คือ 75 ÷ 95 หรือ 30 ÷ 38 = 0.789
    โดยตามค่า WHR ที่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization, WHO) แนะนำไว้ อัตราส่วนนี้ไม่ควรเกิน 1.0 เพราะหากเกินกว่านั้นก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน ซึ่งสำหรับผู้หญิงและผู้ชายนั้นแตกต่างกัน WHO แนะนำว่า ผู้หญิงที่มีค่า WHR เกินกว่า 0.85 บ่งชี้ว่าเป็นโรคอ้วน ส่วนผู้ชายที่มีค่า WHR เกินกว่า 0.9 บ่งชี้ว่าเป็นโรคอ้วน
  3. Waist to Height Ratio วัดสัดส่วนรอบเอวต่อความสูง
    คล้ายกับแบบที่สอง คือใช้รอบเอว ÷ ความสูง (ใช้หน่วยเดียวกัน) ถ้าผลลัพธ์ออกมามากกว่า 0.5 มีความเสี่ยงไขมันสะสมตรงบริเวณรอบเอว
  4. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล วัดไขมัน วัดมวลในร่างกาย
    เป็นเครื่องชั่งสมัยใหม่ที่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์ประกอบร่างกาย เปอร์เซ็นไขมันในร่างกาย, ความหนาแน่นของกระดูก, เปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย, มวลกล้ามเนื้อ, และดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งจะให้ค่าเฉลี่ยที่ค่อนข้างชัดเจนและน่าเชื่อถือ ซึ่งคุณสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นเพื่อติดตามกายเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้เป็นระยะอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ออกกำลังกาย เล่นเวทเทรนนิ่งเพิ่มมวลกล้ามเนื้อในร่างกาย แค่ค่าน้ำหนักไม่สามารถวัดค่าความอ้วนกันได้ ดังนั้น การวัดว่ารูปร่างดีหรือไม่ อาจต้องมาดูกันที่สัดส่วน หรือไซส์ที่แท้จริงของร่างกาย
 

เช็คไซส์ที่ใช่แล้วดูแลรูปร่างให้เหมาะสม

การวัดไซส์เพื่อวิเคราะห์รูปร่างตัวเองเพื่อจะได้ดูแลเรื่องรูปร่างสัดส่วนให้ถูกต้องตามความเหมาะสมนั้นค่อนข้างมีรายละเอียดที่ยิบย่อยมาก ในช่วงปี 1940 ดร.วิลเลียม เฮอร์เบิร์ต เชลดอน นักมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ทำการศึกษาลักษณะรูปร่างของร่างกายมนุษย์ โดยศึกษาจากภาพถ่ายชาย และหญิงจำนวน 46,000 ภาพ แล้วสรุปจำแนะลักษณะรูปร่างของคนออกเป็น 3 แบบ ดังนี้
  1. ผอมแห้ง (Ectomorph) Size S
    สำหรับ Size S จะมีลักษณะ
    • • โครงกระดูกเล็ก  ผอม เพรียว
    • • คอ แขน ขา ยาว แต่ลำตัวจะดูไม่ยาว  เมื่อเทียบกับความยาวขา
    • • ช่วงไหล่แคบ หน้าอกแบน สะโพกเล็ก
    • • มีไขมันในร่างกายน้อย กล้ามเนื้อ มีลักษณะบาง ยาว และมีน้อยด้วย
    • • การเผาผลาญ ในร่างกายจะเกิดขึ้นเร็ว
    คนกลุ่มนี้แม้จะเล่นกล้าม เพาะกาย ก็ไม่สามารถทำให้เกิดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ ได้ อาจดูกระชับ ดูแข็งแรง แต่ถ้าปล่อยตัวเองให้กินมาก ไม่ควบคุมอาหาร และไม่ออกกำลังกาย อาจมีภาวะลงพุง มีพุงกลมๆ ให้เห็น แต่แขนและหน้าตาจะยังดูไม่อ้วน แต่จะป่องอยู่แค่เฉพาะส่วน โดยเฉพาะช่วงตรงกลางลำตัวเท่านั้น
  2. สมส่วน (Mesomorph) Size M
    สำหรับ Size M จะมีลักษณะ
    • • โครงกระดูกใหญ่ กล้ามเนื้อที่หุ้มอยู่ก็ใหญ่ และหนาแน่น
    • • ไหล่กว้าง ช่วงอกกว้างหนา ลำตัวยาว เรียวไปหาเอวที่เล็ก จนเป็นรูปตัววี ( V Shape)
    • • ข้อมือ นิ้วมือ และปลายแขนมีขนาดใหญ่
    • • ไขมันในร่างกาย มีปริมาณไม่มากนัก
    • • เพิ่มกล้ามเนื้อได้ง่าย และมองเห็นชัดเจน
    • • การเผาผลาญ ในร่างกายเร็วพอควร
    คนกลุ่มนี้ถือว่าโชคดี ถ้าออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะมีรูปร่างที่ดี สวยงาม หรือถ้าเล่นกล้าม เพาะกาย กล้ามเนื้อจะเป็นรูปร่างชัดเจนสวยงาม แต่ถ้าปล่อยตัว ไม่มีการควบคุมดูแลสุขภาพจะทำให้ดูอวบ บวมได้
  3. อ้วนกลม (Endomorph) Size L / XL
    สำหรับ Size L / XL จะมีลักษณะ
    • • โครงกระดูกใหญ่ ดูอ้วนตัวกลมๆ
    • • คอ แขน ขา สั้น หน้ากลม
    • • ช่วงบน กลาง ล่าง ของลำตัวใหญ่ เท่าๆ กันหมด
    • • มีเซลล์ไขมันมาก และมองไม่เห็นกล้ามเนื้อ
    • • การเผาผลาญ ในร่างกายจะเกิดขึ้นช้า
    คนกลุ่มนี้ต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด  ไม่อย่างนั้นจะอ้วนและน้ำหนักขึ้นได้ง่ายมาก ซึ่งปกติน้ำหนักและสัดส่วนมักเกินมาตรฐานอยู่แล้ว ถ้าปล่อยตัวไม่ควบคุมอาหาร  ไม่ออกกำลังกาย อาจทำให้น้ำหนักควบคุมไม่อยู่ และกู่ไม่กลับแน่ๆ
และหากคุณกำลังสงสัยอยู่ว่า คุณจัดอยู่ไซส์ S M L XL กันแน่ คุณสามารถเช็คไซส์ได้จากการวัดร่างกายโดยกำหนดจากรอบอก รอบเอว และรอบสะโพก ซึ่งเทียบกับมาตรฐานลักษณะคนเอเชียแล้ว ก็จะเทียบได้กับตารางนี้
 
มาตรฐาน Size ผู้ชาย (*หน่วย (นิ้ว))
ไซส์
XS
S
M
L
XL
XXL
หน้าอก
33 - 36
36 - 39
39 - 41
41 - 43
43 - 46
46 - 49
เอว
27 - 30
30 - 33
33 - 35
36 - 38
38 - 42
42 - 45
สะโพก
33 - 36
36 - 39
39 - 41
41 - 43
43 - 46
46 - 49
 
 
มาตรฐาน Size ผู้หญิง (*หน่วย (นิ้ว))
ไซส์
XS
S
M
L
XL
หน้าอก
31 - 33
33 - 35
35 - 37
37 - 39
39 - 42
เอว
24 - 26
26 - 28
28 - 30
30 - 32
32 - 35
สะโพก
34 - 36
36 - 38
38 - 40
40 - 42
42 - 44
 
 

วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณดูแลรูปร่างให้เหมาะสม

  1. กินให้เหมาะสม
    การกินอย่างเหมาะสมนั้นควรต้องรู้จักร่างกายของตัวเอง แล้วคำนวณแคลอรี่ให้เหมาะสมต่อวัน การรู้ว่าแคลอรี่ที่เหมาะกับเรานั้นจะสามารถทำให้เราควบคุมสมดุลร่างกายได้ทางหนึ่ง โดยสามารถคำนวณได้คร่าวๆ จากปัจจัยของร่างกาย คือความสูง น้ำหนัก อายุ และกิจกรรมต่อวัน แต่จริงๆแล้ว พลังงานที่ต้องการในแต่ละวันของแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการออกกำลังกาย ปริมาณไขมันและกล้ามเนื้อ รวมทั้ง กิจกรรมในสายอาชีพที่ต่างกัน และประสิทธิภาพการทำงานร่างกาย ภาวะอารมณ์ รวมถึงเป้าหมายการควบคุมน้ำหนัก ลดสัดส่วน ดูแลสุขภาพร่างกายที่ต่างกัน

    โดยทั่วไปร่างกายของเราใช้พลังงาน 60% จากปริมาณแคลอรี่เพื่อการดำเนินชีวิตพื้นฐานในอัตราปกติ (รักษาสภาพมีชีวิตที่ไม่มีกิจกรรมอื่น) จำนวนแคลอรี่ที่เราสามารถเผาผลาญในอัตรานี้เรียกว่า BMR (basal metabolic rate) ปัจจัยอื่นที่มีผลต่อการเผาผลาญ คือ “ปริมาณกล้ามเนื้อ” การที่ร่างกายมีปริมาณกล้ามเนื้อมากก็จะสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่า ส่วนพลังงานที่เหลืออีก 40% ร่างกายจะใช้ไปกับกิจกรรมประจำวัน และการขับถ่าย โดย 30% ของพลังงานใช้ไปกับกิจกรรมทางกาย และ 10%ใช้กับการขับถ่ายของเสีย ด้วยกระบวนการดังกล่าว จึงทำให้การคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่กินต่อวันมีประโยชน์ในการวางแผนลดน้ำหนัก ลดสัดส่วน รักษาสมดุลของเราได้ และเห็นผลชัดเจนต่อน้ำหนักตัวของเรานั่นเอง
     
  2. ออกกำลังกายให้เหมาะสม
    สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดไขมัน หรือลดสัดส่วน กิจกรรมที่ควรเลือกทำควรมีทั้งการเวทเทรนนิ่ง และคาร์ดิโอควบคู่กันไป พยายามหาเวลาไปออกกำลังกายให้ได้  5-6 วันต่อสัปดาห์ โดยเลือกการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้น ปานกลางถึงหนัก หรือหากไม่มีเวลาก็ให้เน้นที่คุณภาพในการออกกำลังกายให้มากขึ้น และทำกิจกรรมคาร์ดิโอ 2-3 วันต่อสัปดาห์ วันละ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับความหนักของกิจกรรม

    สำหรับการคาร์ดิโอของคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดไขมัน ลดสัดส่วน จะมีทางเลือกในการคาร์ดิโอทั้งแบบเข้มข้นสูงอย่างการทำ HIIT ซึ่งควรทำ 30 นาที วันเว้นวัน หรือ 2 วัน แต่หากเลือกการคาร์ดิโอที่ความเข้มข้นปานกลาง โดยการวิ่งเหยาะๆ วิ่งช้าสลับเร็ว หรือการปั่นจักรยาน ให้ทำ 40-60 นาทีต่อเนื่อง อย่างน้อย 3-5 ต่อสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม การดูแลรูปร่างของแต่ละคนนั้นไม่ได้มีสูตรตายตัว บางคนอาจไม่จำเป็นต้องควบคุมแคลอรี่ แต่อาจควรต้องเพิ่มด้วยซ้ำ หรือบางคนควรทำออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งเป็นหลัก เนื่องจากปัญหารูปร่างและสัดส่วนแต่ละคน แต่ละไซส์มีไม่เหมือนกัน รายละเอียดและวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละรูปร่างก็ไม่เหมือนกัน รวมถึงแต่ละบุคคลก็สะดวกในการลดสัดส่วนไม่เหมือนกัน ดังนั้น SparSha จึงพยายามคิดค้นโปรแกรมที่สามารถช่วยในการลดสัดส่วน สลายไขมันให้เหมาะสมเฉพาะกับบุคคล เพื่อเป้าหมายทางรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป แต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจไม่แพ้กัน ซึ่งทางทีมผู้เชี่ยวชาญของ SparSha ได้ออกแบบโปรแกรมการลดน้ำหนัก พร้อมลดสัดส่วนทั้งตัว เพื่อการดูแลรูปร่างและสัดส่วนเฉพาะบุคคลตามแต่ละไซส์ โดยมีการผสมผสานเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนทุกรูปร่าง
 
Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วน
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 

Renew Perfect Body เนรมิตรูปร่างที่ใช่ให้เฉพาะคุณ

การที่แต่ละคนมี รูปร่างแตกต่างกัน ทำให้รายละเอียดปลีกย่อยในการวางแผนดูแลรูปร่าง ลดน้ำหนัก ลดสัดส่วนย่อมไม่เหมือนกัน และการที่จะมีรูปร่างและสัดส่วนดูดีอย่างที่เหมาะสมได้นั้นจึงต้องอาศัยความเข้าใจอย่างสูงในการดูแลร่างกายทุกๆ ส่วน ทีมแพทย์ของ SparSha ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านความงามและรูปร่างจึงออกแบบโปรแกรม Renew Perfect Body ทรีทเม้นท์ลดสัดส่วน สลายไขมัน เพื่อแก้ไขปัญหารูปร่างที่แตกต่างกันของแต่ละคนโดยเฉพาะ ซึ่งโปรแกรมนี้จะช่วยเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณสามารถลดน้ำหนัก ลดสัดส่วน ดูแลรูปร่างให้เหมาะสมได้ตั้งแต่เริ่มทำไปจนถึงการดูแลสุขภาพตัวเองต่อเนื่องถึงอนาคต
 
โดยโปรแกรม Renew Perfect Body ทรีทเม้นท์ลดสัดส่วน สลายไขมัน เพื่อดูแลเรื่องน้ำหนักและลดสัดส่วนทั้งตัวตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคลนั้น มีการออกแบบโปรแกรมให้ไม่เหมือนกันสำหรับคนรูปร่างต่างกัน ดังนี้
  1. Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ S
    ถึงแม้ว่าจะเป็นไซส์ S มีลักษณะตัวเล็กก็จริง แต่ในบางรายก็ยังมีไขมันส่วนเกินสะสมใต้ชั้นผิวอยู่บ้าง โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ S จึงเน้นไปที่การกระตุ้นการทำงานของระบบการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง พร้อมฟื้นฟูกล้ามเนื้อเพื่อให้สัดส่วนกระชับ ลดสัดส่วนให้พอดีสมกับเป็นไซส์ S ตัวจริง

    โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ S ถูกออกแบบให้ใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่สามารถปล่อยคลื่น Micro Current ทำหน้าที่ส่งกระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ เพิ่มปริมาณกล้าเนื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันสะสมส่วนเกินในร่างกาย ช่วยกระชับผิวพร้อมลดสัดส่วนให้สมกับรูปร่าง พร้อมกับใช้เทคนิคเฉพาะที่ SparSha กับการห่ม Infrared พลังงานความร้อนเฉพาะ ที่เข้าไปกระตุ้นการไหลเวียน ฟื้นฟูระบบการเผาผลาญของร่างกายให้มีคุณภาพมากขึ้น จึงช่วยให้การถ่ายขับสารพิษของเสียในร่างกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิวอย่างล้ำลึก ช่วยลดสัดส่วนให้กระชับกับความเป็นคนไซส์มินิ

    คุณสมบัติเฉพาะของการทำโปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ S จะมีใช้เทคนิคการนวดสลายไขมันด้วยน้ำหนักมือ ซึ่งให้ความอ่อนโยนต่อคนไซส์ S สูงสุด พร้อมกับการใช้เทคโนโลยีพลังงานความถี่เฉพาะ เพื่อเสริมการทำงานของระบบภายในร่างกายให้สมดุลและเป็นไปตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย ให้ผลลัพธ์รูปร่างดีพร้อมกับความอ่อนโยนปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหรือฝืนแรงไปออกกำลังกายให้เหน็ดเหนื่อยก็สามารถเพิ่มความดูดีให้รูปร่างคนตัวเล็กได้

    โดยโปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ S จะมีการนวดช่วยสลายไขมันที่สะสมใต้ชั้นผิวหนัง โดยใช้ควบคู่กับ Cellulite Cream ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติของ SparSha ที่ช่วยทำให้ไขมันโมเลกุลใหญ่แตกตัวเล็กลง ส่งผลให้ดึงไขมันไปเผาผลาญเป็นพลังงานได้เร็วขึ้น ช่วยสลายไขมันได้อย่างรวดเร็ว ลดสัดส่วนให้เล็กลงได้ นอกจากนี้ยังทำควบคู่กับการพอกด้วย Thermo Slimming Serum ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง ช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกาย รวมถึงเซลลูไลท์ใต้ชั้นผิวก็สามารถสลายลงได้อีก จากนั้นจึงมีการใช้คลื่น Infrared  ที่ส่งความร้อนถึงชั้นไขมันระดับลึก กระตุ้นระบบการเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยมีการผสมผสานไปกับคลื่น Micro Current ที่เข้าไปทำหน้าที่ช่วยให้กล้ามเนื้อได้ถูกกระตุ้น เสมือนได้การออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อแบบ Passive Exercise สามารถฟื้นฟูและเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี รูปร่างจึงมีความกระชับขึ้น และในขั้นตอนสุดท้ายจะมีการกระชับสัดส่วนด้วยผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติ 100% เป็นเทคนิค Fat Mobilization ที่ใช้อุณหภูมิความเย็น เทคนิคการพันเฉพาะของ SparSha ช่วยเพิ่มความกระชับให้ผิว เรือนร่างเข้ารูปตามไซส์ ลดสัดส่วนลงให้ดูเป็นคนตัวเล็กแบบฟิตแอนด์เฟิร์มได้ถึงอนาคต

    ระยะเวลาในการทำโปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ S จะใช้เวลาประมาณ 1.30 - 2.30 ชั่วโมงต่อครั้ง และเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ลดสัดส่วนให้รูปร่างดูกระชับ หุ่นดีเหมาะสม ควรทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งทั้งหมด 5 ครั้งก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างที่กระชับขึ้น เฟิร์มขึ้น ลดสัดส่วนลงแบบพิสูจน์ได้ และที่สำคัญคือการทำ โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ S นี้ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ตามมาให้คุณต้องกังวล
  2. Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ M
    สำหรับ Size M นี้รูปร่างค่อนข้างสมส่วน แต่ในบางรายอาจมีภาวะน้ำบวมน้ำร่วมด้วย โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ M จึงโฟกัสไปที่การสลายไขมันโมเลกุลขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง พร้อมกับให้เทคโนโลยีเฉพาะส่งผ่านคลื่นความถี่เข้ากระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญ ช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิว ช่วยลดสัดส่วนให้เหมาะสม รูปร่างดูกระชับขึ้น

    โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ M ถูกออกแบบให้ใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่ปล่อยคลื่น Micro Current เข้าไปทำงานตรงกับกล้ามเนื้อเพื่อกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ สร้างการเผาผลาญด้วยกลไกตามธรรมชาติ ช่วยลดสัดส่วนพร้อมกับกระชับรูปร่าง โดยผสมผสานเทคนิคเฉพาะที่ SparSha กับการห่ม Infrared พลังงานความร้อน รวมถึงการนวดกระตุ้นสลายไขมันโดยเฉพาะ  ช่วยกระตุ้นการไหลเวียน ฟื้นฟูระบบเผาผลาญพลังงาน ระบบขับของเสียในร่างกาย ให้ร่างกายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการสลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวได้อย่างเหมาะสม

    คุณสมบัติเฉพาะของการทำโปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ M จะมีเทคนิคเฉพาะของ Sparsha ที่ทำให้ไขมันโมเลกุลใหญ่แตกตัวเล็กลง ลดสัดส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติ พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพกระตุ้นการเผาผลาญ การสลายไขมันใต้ชั้นผิว ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ผิวให้แข็งแรง  พร้อมเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงาน กระบวนการขับของเสียออกจากร่างกาย ลดการบวมน้ำ ลดสัดส่วนให้กลับมาพอดีตามไซส์

    โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ M จะเริ่มจากการนวดด้วยเทคนิคเฉพาะ จากนั้นจะพอกด้วยกาแฟซึ่งมีส่วนผสมของ Caffeine เพื่อช่วยยับยั้งเอ็นไซม์ที่กระตุ้นการสะสมของไขมันชั้นใต้ผิว  เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกัน และฟื้นฟูสภาพเซลล์ผิวให้แข็งแรง ควบคู่กับการใช้ความร้อนจากคลื่น Infrared ในการเร่งการเผาผลาญไขมันช่วยให้การลดน้ำหนัก ลดสัดส่วนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผสานการทำงานร่วมกันกับคลื่น Micro Current ที่เข้าไปฟื้นฟูและเสริมสร้างกล้ามเนื้อโดยตรง จึงช่วยให้การสลายไขมัน การเผาผลาญไขมันทำงานได้ดีลึกถึงใต้ชั้นผิว นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการพันเฉพาะของ Sparsha และผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติ 100% โดยใช้อุณหภูมิความเย็นในการกระชับสัดส่วน ช่วยคืนความกระชับให้ผิว ให้เรือนร่างดูดีเข้ารูป ลดสัดส่วนให้สมบูรณ์แบบ หุ่นพอดีตามสไตล์คนไซส์ M

    ระยะเวลาในการทำโปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ M จะใช้เวลาประมาณ 1.30 - 2.30 ชั่วโมงต่อครั้ง ควรทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทั้งหมด 5 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์รูปร่างกระชับสวยงาม ลดสัดส่วนให้ดูเหมาะสมพอดียิ่งขึ้น และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ให้ต้องกังวลหลังทำ โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ M
  3. Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ L
    สำหรับไซส์ L จะค่อนข้างมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก สัดส่วน ไขมัน และมีความต้องการลดอย่างเร่งด่วน โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ L จึงมุ่งเน้นไปในเรื่องของการเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงาน (Metabolism) ซึ่งเป็นวิธีทางธรรมชาติในการใช้พลังงานของร่างกาย ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีเฉพาะทางที่ช่วยทำหน้าที่เร่งการเผาผลาญไขมัน จึงทำให้การลดน้ำหนัก สลายไขมัน การลดสัดส่วนทั้งตัวทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ L ถูกออกแบบให้ใช้เทคโนโลยีผสานพลังงานของครั้งคลื่น Infrared และ Micro Current ที่ช่วยทั้งการเพิ่มอัตราการเผาผลาญ กระตุ้นการไหลเวียนของระบบเลือดและน้ำเหลือง พร้อมช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้สัดส่วนกระชับขึ้นได้ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคเฉพาะของ SparSha ช่วยนวดกระตุ้นสลายไขมันโดยเฉพาะด้วยเครื่องมือสมัยใหม่ เพื่อช่วยสลายไขมันขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง ง่ายต่อการเผาผลาญ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียน ขับของเสีย ลดบวมน้ำ ลดเซลลูไลท์ ลดสัดส่วนทั้งตัวลงได้อย่างเห็นผล

    คุณสมบัติเฉพาะของการทำโปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ L จะมีเทคนิคเฉพาะของ Sparsha ที่ทำให้ไขมันโมเลกุลใหญ่แตกตัวเล็กลง ลดสัดส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติ พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพกระตุ้นการเผาผลาญ การสลายไขมันใต้ชั้นผิว ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ผิวให้แข็งแรง  พร้อมเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงาน กระบวนการขับของเสียออกจากร่างกาย ลดการบวมน้ำ ลดสัดส่วนให้รูปร่างเล็กลงได้

    โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ L จะเริ่มจากการใช้เทคนิคเฉพาะของ Sparsha กระตุ้นเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย (Metabolism) ด้วยการใช้สารสกัดที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ผิวทำให้แข็งแรง สดใส ไม่หมองคล้ำ ควบคู่ไปกับการปล่อยพลังงานคลื่น Infrared ที่เข้าไปเร่งการเผาผลาญไขมัน ทำให้การลดน้ำหนัก ลดสัดส่วนลดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการใช้ทรีทเม้นท์ที่สามารถสลายไขมัน และกระชับสัดส่วนได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ พร้อมกับฟื้นฟูความกระชับทั้งตั้วด้วยเทคนิคการพันเฉพาะของ Sparsha และผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติ 100% โดยใช้อุณหภูมิความเย็นในการกระชับสัดส่วน ช่วยสร้างกรอบรูปร่างใหม่ให้สาว Size L เปลี่ยนเป็นสาว Size M ได้

    ระยะเวลาในการทำโปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ L จะใช้เวลาประมาณ 1.30 - 2.30 ชั่วโมงต่อครั้ง ควรทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง เว้นระยะห่างสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็จะช่วยให้รูปร่างเกิดการเปลี่ยนแปลง ลดสัดส่วนจากไซส์ L ให้เป็นไซส์ M ได้อย่างน่าพึงพอใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงใดๆ หลังทำ โปรแกรม Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ L
  4. Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ XL
    สำหรับ Size XL จะมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก ไขมัน สัดส่วน รูปร่างครบทุกรูปแบบ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในอนาคตจากสาเหตุไขมันสะสม ดังนั้นจึงต้องมีการควบคุมน้ำหนัก และลดสัดส่วนอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคความดัน โรคเบาหวาน โรคเก๊าท์ โรค
    กระดูก โรคหัวใจเป็นต้น และเป็นกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างลดยาก เนื่องด้วยมีการสะสมของไขมันมานาน รวมถึงสภาวะร่างกายที่มีความพร้อมน้อยกว่าไซส์อื่น ดังนั้น Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ XL จึงมุ่งเน้นไปที่การปรับสมดุลทั้งร่างกาย รวมถึง Detox ของเสียในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุของการสะสมไขมัน เซลลูไลท์ รวมถึงอาการบวมน้ำที่ทำให้ยากต่อการลดน้ำหนัก พร้อมผสมผสานเทคโนโลยีเฉพาะทางที่ตรงเข้าช่วยฟื้นฟูประสิทธิภาพการเผาผลาญ เร่งการลดน้ำหนัก ลดสัดส่วนทั้งตัว สลายไขมันทั้งร่างกาย คืนสุขภาพพร้อมรูปร่างที่ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องรอเวลานาน

 

โปรแกรม Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ XL ถูกออกแบบให้ใช้เทคโนโลยีเฉพาะทางที่หลากหลายเพื่อช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างได้ผล ซึ่งมีทั้งเทคโนโลยี IMP (Impress 240) กระตุ้นการทำงานของเส้นเลือด ต่อมน้ำเหลือง ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ขจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย และมีเครื่อง GRT (G5) ในการนวด เพื่อสลายไขมันให้แตกตัวเล็กลง ง่ายต่อการเผาผลาญ และยังมีคลื่น Infrared และ Micro Current อย่างเครื่อง FIS ที่ช่วยทั้งการเพิ่มอัตราการเผาผลาญ และที่สำคัญคือใช้เทคนิคเฉพาะของ SparSha เข้าดูแลสัดส่วนทั้งร่างกายให้กระชับขึ้นได้ทั้งตัว

 

คุณสมบัติเฉพาะของ Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ XL คือการใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายสร้างผลลัพธ์น้ำหนักตัวที่ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อร่างกาย รวมถึงมีการใช้เทคนิคเฉพาะของ SparSha อย่างใส่ใจ เพื่อช่วยให้สาวไซส์ XL ลดสัดส่วนให้เล็กลงจนเป็นไซส์ L ได้สำเร็จ

 

โปรแกรม Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ XL จะเริ่มต้นด้วยการฟื้นฟูระบบการทำงานภายในร่างกาย การไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลือง คืนสมรรถภาพในการเผาผลาญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้ร่างกายมีการขับของเสีย เปรียบเสมือนได้ Detox ของเสียทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์ พร้อมช่วยลดอาการบวมน้ำที่ทำให้ยากต่อการลดน้ำหนักตัว โดยจะเป็นการใช้ ระบบ Pressure Therapy ซึ่งเป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ว่าปลอดภัย ควบคู่ไปกับการปล่อยพลังงานคลื่น Infrared เพื่อไปกระตุ้นระบบการเผาผลาญของร่างกาย ร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ ที่ช่วยเร่งการสลายไขมัน พร้อมกระชับสัดส่วนในระยะเวลาอันสั้น จึงทำให้การลดลน้ำหนักครั้งนี้จะแตกต่างไปจากวิธีเดิม คุณจะได้สัมผัสกับผลลัพธ์น้ำหนักตัวที่ลดลง ลดสัดส่วนให้เล็กลงจนสังเกตุได้ และที่สำคัญคือมีสุขภาพร่างกายที่ดีกว่าที่เคย

 

ระยะเวลาในการทำโปรแกรม Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ XL จะใช้เวลาประมาณ 1.30 - 2.30 ชั่วโมงต่อครั้ง ควรทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง เว้นระยะห่างสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็จะช่วยให้รูปร่างเกิดการเปลี่ยนแปลง ลดน้ำหนัก ลดสัดส่วนลงได้อย่างน่าถึงพอใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงใดๆ หลังทำ โปรแกรม Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับคนไซส์ XL สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

 

อย่างไรก็ตาม โปรแกรม Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัว ยังต้องอาศัยการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ ที่ต้องการเปลี่ยนไซส์ ไม่ว่าจะจาก XL เป็น L หรือ L เป็น M ก็ตาม ทั้งนี้ วินัยของการเอาใส่ใจรูปร่างคือเรื่องสำคัญ ถ้าหากยังมีพฤติกรรมการกินในรูปแบบเดิม ใช้ชีวิตที่ไม่รักสุขภาพแบบเดิม ก็อาจจะทำให้ผลลัพธ์รลดสัดส่วนที่เคยทำสำเร็จกลับไปสู่รูปแบบเดิม ดังนั้น อย่าลืมที่จะเอาใส่ใจรูปร่างตามความเหมาะสม ใส่ใจสุขภาพเพื่ออนาคตเป็นคนที่เพอร์เฟ็กในแบบของตัวเอง

 

การเตรียมตัวก่อนเข้าทำทรีทเม้นท์ โปรแกรม Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับทุกไซส์

1.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ

2.งดดื่มเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ทุกชนิด

3.ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร (7-8 แก้ว/วัน)

 

ข้อห้าม/ข้อควรระวัง โปรแกรม Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับทุกไซส์

1.ไม่แนะนำให้ทำในช่วงระหว่างมีรอบเดือน หรือก่อนหลังการมีรอบเดือน 3 วัน

2.ผู้ที่สูญเสียความรู้สึก หรือการรับความรู้สึกบกพร่องหรือช้า

3.ผู้ที่ฝั่งเหล็กในร่างกาย

4.ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ, ทำบอลลูนหัวใจ

5.ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน (กินยารักษา)

6.ผู้ที่ผ่าตัด (ทำได้เมื่อหลังผ่าตัด 6-12 เดือนขึ้นไป)

7.โรค SLE ห้ามทำช่วงที่มีอาการ

8.โรคมะเร็ง, นิ่วในถุงน้ำดี

9.โรคไทรอยด์เป็นพิษแบบสูง

10.โรคลมชัก

11.ธารัสซีเมีย

12.ความดันโลหิตสูง (ไม่ได้กินยารักษา)

13.ความดันโลหิตสูง (กินยารักษา) ห้ามทำ IMP/IFD

14.ความดันโลหิตต่ำ (ในกรณีที่พันเย็นทั้งตัวห้ามทำ)

 

การดูแลตนเองหลังทำทรีทเม้นท์ โปรแกรม Renew Body สลายไขมัน ลดสัดส่วนทั้งตัวสำหรับทุกไซส์

1.หลังทำการรักษาภายใน 24 ชั่วโมง แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่า เฉลี่ย 2-3 ลิตร เพื่อให้ของเสียที่คั่งค้างสะสมอยู่ในร่างกายถูกกำจัดออกให้เร็วที่สุดและในวันถัดไปให้ดื่มน้ำเปล่าวันละ 2 ลิตร ถ้าดื่มน้ำน้อยขบวนการขับของเสียออกจากร่างกายจะไม่ดี ของเสียและไขมันจะยังคงสะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ผลในการรักษาได้ผลไม่ดีนักควรพักผ่อนให้เพียงพอ

2.งดดื่มเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ทุกชนิด

3.ทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบ 5 หมู่

4.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ

5.เพื่อเสริมให้เห็นผลการรักษาเร็วยิ่งขึ้นควรรักษาควบคู่ไปกับการทำทรีทเม้นท์อื่นๆ ร่วมด้วย

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line :  Line @sparsha

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

 

ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife